New Yamaha XMAX Connected
รถออโตเมติกสปอร์ตที่มาพร้อมความแรง และที่สุดของเทคโนโลยีความสะดวกสบาย

    เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในงาน Motor Expo 2022 ที่ผ่านมาพร้อมด้วยราคาเปิดตัวสุดเร้าใจ 189,900 บาท ที่งานนี้บอกเลยว่าเป็นรถออโตเมติกที่จัดเต็มในเรื่องเทคโนโลยีแบบไม่มีกั้ก พร้อมด้วยรูปโฉมภายนอกที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด โดดเด่นด้วยไปหน้าแบบ Full LED โดยตัวโคมนั้นมีสัญลักษณ์เป็นรูปตัวเอ็กซ์ แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของสายพันธ์เอ็กซ์ งานนี้ทีมงานไซเคิลโรดได้รับเกียรติให้ได้เข้าร่วมสัมผัสสมรรถนะและเทคโนโลยีเป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย บอกเลยว่าตื่นเต้นมากๆ

    การทดสอบขับขี่ครั้งนี้จัดขึ้นที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต โดยทุกคนจะได้รับฟังข้อมูลจากพี่ๆ เจ้าหน้าที่แต่ละฝ่ายอย่างละเอียดทั้งข้อมูลเชิงลึก และฟังก์ชั่นการใช้งานอุปกรณ์ซึ่งในรุ่นนี้ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลงใหม่ตั้งแต่ภายนอกจนไปถึงเทคโนโลยีที่เรียกได้ว่าล้ำสมัยสุดๆ จนอดตื่นเต้นไม่ได้ที่จะได้ลองสัมผัสและขับขี่ทดสอบเป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย

    New Yamaha XMAX Connected มาพร้อมเครื่องยนต์ BLUE CORE 300 cc SOHC 4 วาล์วพร้อมด้วยกระเดื่องวาล์วแบบ Roller Rocker Arm กับค่าไอเสียที่ผ่านมาตรฐาน EU5 บ่งบอกถึงเครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้ดีเยี่ยม คงความแรงอย่างเหนือชั้นด้วยอัตราเร่งที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรือนลิ้นเร่งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 35 มิลลิเมตรกระบอกสูบแบบไดอะซิลที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแกร่งทนทานพร้อมการออกแบบให้เครื่องยนต์มีการระบายความร้อนได้รวดเร็ว เพิ่มช่องครีบระบายความร้อนออกทางด้านข้างตัวรถ ช่วยให้การขับขี่เดินทางระยะไกลต่อเนื่อง หรือขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรแออัดลดการสะสมความร้อนในห้องเครื่องได้เป็นอย่างดี ชิลด์บังลมหน้ารถดีไซต์ใหม่เพื่อความสปอร์ตและหรูหรามากขึ้นมีตำแหน่งยึดน็อตที่สามารถปรับได้โดยทั้งสองตำแหน่งของการติดตั้งนั้นจะมีระยะห่างความสูงอยู่ที่ 50 มิลลิเมตรให้ผู้ขับขี่เลือกปรับใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับสรีระของตัวผู้ขับขี่

    หน้าจอเรือนไมล์แบบใหม่ที่สองจอคู่บนล่าง โดยที่ทางด้านจอบนนั้นเป็นจอ LCD ขนาด 3.2 นิ้วที่แสดงผลในเรื่องของมาตรวัดความเร็ว ระดับน้ำมันเชื้อเพลิง รวมไปถึงมาตรวัดระยะทางรวมและมาตรวัดระยะทางแบบทริป A และทริป B ส่วนทางด้านจอล่างนั้นเป็นหน้าจอขนาด 4.2 นิ้วแบบจอสี TFT โดยทั้งสองจอนี้จะสามารถควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ผ่านสวิทย์ทางแฮนด์ด้านซ้ายซึ่งจะมีปุ่มขึ้น-ลง-Enter-Back ส่วนการแสงดผลหน้าจอทางด้านล่างนั้นจะมีการโชว์ได้ 3 รูปแบบคือ การโชว์มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ การโชว์สปีดลิมิตร และการโชว์ระดับ ECO ความระดับความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และนอกจากนี้ยังสตรีมแผนที่ของแอพพลิเคชั่นการ์มินขึ้นมาโชว์ที่หน้าจอ ซึ่งเป็นการพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะระหว่างยามาฮ่าและการ์มิน ผู้ที่ใช้งานรุ่น New Yamaha XMAX Connected จึงสามารถดาวโหลดแอพพลิเคชั่นแผนที่การ์มินมาใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถทำการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น Y-Connect ได้อีกด้วยเพื่อความสะดวกสบายในเรื่องของข้อมูลต่างๆ ที่สามารถเรียกดูได้ตลอดเวลาในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมโดยการสแกนที่หน้าจอเรือนไมล์ได้เลย โดยการเชื่อมต่อนั้นจะใช้ปฏิบัติการณ์ Android ตั้งแต่เวอร์ชั่น 8.0 ขึ้นไปส่วน IOS นั้นใช้ตั้งแต่เวอร์ชั่น 11.0 ขึ้นไป ไฟหน้าที่เพิ่มความโดดเด่นด้วยหลอด LED ที่มีการจัดเรียงตำแหน่งเป็นตัวกากบาทรูปตัวเอ็กซ์ไฟหน้าที่ให้แสงสว่างได้อย่างชัดเจนแม้เวลาขับขี่ในช่วงกลางวัน พร้อมด้วยไฟ Daytime Running Lights ที่ช่วยเพิ่มการสังเกตุจากรถคันอื่นได้ดีขึ้น ให้ลำแสงกระจายครอบคลุมบริเวณพื้นที่ด้านหน้ารถ ขับขี่ในช่วงกลางคืนมองเห็นชัดเจน ส่วนทางด้านสัญญาณไฟนั้นมีการย้ายตำแหน่งไฟเลี้ยวด้านหน้าขึ้นมาทางข้างบนให้สูงขึ้นเพื่อให้เป็นที่สังเกตุเห็นได้ชัดโดยอยู่ในตำแหน่งขนาบข้างของชิลด์บังลมหน้าความสูงระดับเดียวกับแฮนด์รถ ส่วนไฟท้ายดีไซต์ใหม่พร้อมความสว่างที่มากกว่าเดิมจากเดิมไฟหรี่ 0.9 วัตต์เป็น 1.04 วัตต์ ส่วนไฟเบรกเดิม 1.7 วัตต์เป็น 3.27 วัตต์ และไฟเลี้ยวเดิม 10 วัตต์แบบ Bulb เป็น 7.35 วัตต์แบบ LED

    ก้านเบรกจากเดิมที่มีลักษณะเบรกหน้าไวจึงมีการออกแบบขนาดขึ้นมาใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเบรกที่ละเอียดมากขึ้นกว่ารุ่นเดิมโดยที่ตัวก้านนั้นมีความยาวตั้งแต่จุดหมุนจนไปถึงตุ้มปลายก้านเบรกอยู่ที่ 176.5 มิลลิเมตร (จากของเดิมที่ยาว 166.7 มิลลิเมตร) และมีระยะจากจุดหมุนลงมาที่ปลายกระทุ้งปั้มเบรกที่ 23.7 มิลลิเมตร (จากของเดิมที่ระยะ 25.9 มิลลิเมตร) ทำให้การออกแรงลงน้ำหนักเบรกหน้านั้นมีความละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม ให้กำลังเบรกที่มีความลงตัวทั้งความเร็วสูงและความเร็วต่ำพร้อมด้วยระบบ ABS ทั้งล้อหน้าและหลัง ช่วยควบคุมแรงดันเบรกอัตโนมัติทั้งหน้า-หลัง ป้องกันล้อล็อก นอกจากนี้ตัวขาของกระจกมองหลังนั้นยังมีการเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นเหล็กพ่นสีเป็นอลูมิเนียมเข้ามาแทนแบบเดิม เบาะนั่งเว้าหลบขาผู้ขับขี่และที่เก็บของดีไซน์ใหม่เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ออกแบบมาเพื่อสรีระของคนไทย มีการเปลี่ยนรูปทรงเพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้เท้าแตะพื้นได้สะดวกมากโดยการออกแบบให้มีการเว้าที่บริเวณขอบซีลกันน้ำตำแหน่งบริเวณใต้ต้นขาของผู้ขับขี่ ส่งผลให้บริเวณหัวเบาะนั้นมีลักษณะที่แคบลงขับขี่ง่ายแม้ว่าผู้ขับขี่จะมีความสูงปานกลาง

    โช้คหน้าแบบสปอร์ตพร้อมแผงคอสองชั้นและเฟรมรถน้ำหนักเบาแข็งแกร่ง ผนวกกับโช้คหน้าเทเลสโคปิคแบบรถสปอร์ต ขนาด 33 ม.ม. ทำให้มั่นคงทุกการควบคุม เฉียบคมทุกการเข้าโค้ง เพิ่มความมั่นใจและตอบสนองการขับขี่ได้ดีเป็นพิเศษ แม้ว่าจะกำลังขับขี่ผ่านการจราจรในเมืองหรือใช้ความเร็วขณะที่กำลังเดินทางออกนอกเมืองก็ตาม ทำให้ผู้ขับขี่นั้นมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ส่วนทางด้านโช้คหลังแบบคู่ก็ยังสามารถปรับค่าพรีโหลดความแข็งของสปริงได้เพื่อให้เข้ากับน้ำหนักตัวผู้ขับขี่หรือการขับขี่แบบมีคนซ้อนรวมไปถึงการบรรทุกสัมภาระ ส่วนระบบเทร็คชั่นคอนโทรลที่เป็นระบบเพื่อความปลอดภัยป้องกันล้อลื่นไถล เมื่อขับขี่ไปตามทางที่มีกรวดทรายหรือถนนเปียกลื่น ระบบจะคอยตรวจจับความเร็วล้อหน้า-หลังให้สัมพันธ์กันด้วยเซ็นเซอร์ และคอยควบคุมกำลังเครื่องยนต์เพื่อป้องกันไม่ให้ล้อหลังหมุนฟรี ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยในทุกสภาพพื้นผิวถนน

     และนอกจากนี้ยังสะดวกทุกครั้งที่ขับขี่ด้วยกุญแจ Smart Key System กุญแจรีโมทอัจฉริยะ ปลดล็อกระบบสวิตช์กุญแจรถได้เพียงแค่พกรีโมทไว้ใกล้ตัวพร้อมกับควบคุมปุ่มสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ ปลดล็อกแฮนด์รถ / ปลดล็อกเบาะ / ปลดล็อกฝาปิดถังน้ำมัน สัญญาณตอบรับ ANSWER BACK ได้อย่างง่ายดาย ส่วนที่บริเวฯคอนโซลหน้ารถนั้นเป็นที่เก็บของใช้ที่หยิบฉวยได้อย่างรวดเร็วยังมีช่องต่อไฟอุปกรณ์เสริม ขนาด 12V สามารถชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ตลอดเวลาที่ขับขี่