ReadyPlanet.com
dot
dot
bulletCycle contest
bulletNew Motorcycle
bulletMotor sport
bulletCycle Care
dot
dot
bulletThai Honda
bulletThai Yamaha
bulletThai Suzuki
bulletKawasaki Motor
bulletVespa Thailand
bulletOKD Shock
bulletStallions Motorcycle
bulletDucati Thailand
bulletBMW Thailand
bulletHarley-Davidson Thailand
bulletTriumph Thailand
dot
dot
bullet101bike
bulletเล่าเกียงเซ้ง
bulletธีระมอเตอร์ไซเคิล
bulletPanom Racing
bulletPanda Rider
bulletดำรงค์ยางยนต์
dot

dot


เพิ่มเพื่อน
www.cycle-road.com


เส้นทางหฤโหด สู่การเป็น "ราชาแห่งสตั๊นท์"

     เป็นที่รู้กันดีว่ารถมอเตอร์ไซค์นั้นมี 2 ล้อขับเคลื่อนโดยล้อหน้าและหลังทำงานร่วมกัน แต่!...มีคนอยู่กลุ่มนึงที่ไม่ชอบขี่รถสองล้อ บ้างก็ชอบยกล้อหน้าบ้างก็ชอบยกล้อหลัง...ไม่ต้องแปลกใจครับเค้าเรียกว่า Stunt Rider หรือนักบิดสตั๊นท์ ในเมืองไทยมีกลุ่มคนรักความหวาดเสียวอยู่หลายกลุ่มและมีหลากหลาย Tricks (ท่า) มีทั้งท่าธรรมดามาตรฐานไล่ไปจนถึงท่าระดับโปรหรือถึงขั้นท่า Sickest Tricks (ท่าบ้าหลุดโลก) เนื่องการ Stunt กำลังกลายเป็นกีฬาที่เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น (และวัยทำงาน) Cycle Road ขอนำเสนอ Basic Trick ซึ่งเป็นท่าเริ่มต้นสำหรับต่อยอดไปยังท่าอื่นๆ ท่านี้คือ “Wheelie” หรือ “ยกหน้าสู้ฟ้า” พร้อมจะตะลุยสู่ความท้าทายกันรึยัง ?

Basic of doing Wheelie

ท่า Wheelie นับเป็นพื้นฐานสำหรับต่อยอดไปยังท่าต่างๆ โดยตัวท่า Wheelie เองก็มีอยู่หลายระดับและแบ่งได้ออกเป็นหลายสาย ฉบับนี้เราขอเสนอเทคนิคพร้อมเคล็ดลับจากกูรูทั้ง 3 กับการเริ่มต้นท่า Wheelie


1. เช็คอุปกรณ์แต่งกายให้พร้อม เช็ครถพร้อมอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ เช่นแฮนด์บาร์, เหล็กกันล้ม, เหล็ก 12 O’clock (เหล็กกันหงายหลัง) และที่สำคัญเบรก


2. การ Wheelie เริ่มต้นจากการเข้าเกียร์ 1 เลี้ยงคันเร่งที่ความเร็วที่ต่ำที่สุด เท้าขวาวางใกล้เบรกพร้อมแตะตลอดเวลา เท้าซ้ายเหยียบลง ½ ของรอบเกียร์เพื่อเป็นการ “เลียคลัทช์” จากนั้นเปิดคันเร่ง ½ รอบพร้อมปล่อยเท้าจากเกียร์...ผลลัพธ์ที่ได้คือ รถจะกระชากออกไปพร้อมยกล้อหน้าขึ้น
เก่ง : “หัวใจหลักของการ Wheelie คือการควบคุมคันเร่ง”
ปาล์ม : “ต้องเรียนรู้การใช้คลัทช์และจับจังหวะการทำงานให้ถูก”


3. จุดที่สำคัญที่สุดคือการหา Balance Point ของเรา ซึ่งเป็นจุดที่รถตั้งเกือบตรงและสามารถเคลื่อนที่โดยที่ล้อหน้าไม่ลดระดับลง
เก่ง : “เมื่อเรายกล้อขึ้นมันจะมีอยู่จุดนึงที่เรารู้สึกว่ามันใช่ ผมใช้ความรู้สึกเอา”
Koko : “Balance point คือจุดที่มันไม่โน้มไปข้างหน้าและไม่ล้มไปด้านหลัง”
ปาล์ม : “ผมรู้ว่ามันคือ Balance Point เมื่อไมล์อยู่ในระดับสายตาผม”


4. เมื่อรถเข้าสู่ Balance Point แล้วจากนี้คือการทรงตัว ซึ่งขึ้นอยู่กับทักษะของแต่ละคน โดยกูรูทั้ง 3 คนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าอาศัยการแตะเบรกหลัง เมื่อรถกำลังจะโน้มไปด้านหลังให้แตะเบรกหลังเบาๆ รถจะกลับมาอยู่ในจุด Balance Point ทันที แตะเบรกแรงขึ้นจะส่งผลให้ล้อหน้าลดระดับลงอย่างรวดเร็ว


5. ขั้นตอนสุดท้ายของท่า Wheelie คือการซ้อมและซ้อมให้หาจุดที่เราทรงตัวได้ดีที่สุด สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองเพื่อขยับสู่ท่าต่อไป
 

     ขอบคุณ Techinical Rider (TR) เอเยนต์ส่งออกนักแสดงสตั๊นท์ชั้นแนวหน้าของประเทศไทย สามารถติดตามความเคลื่อนไหววงการสตั๊นท์ได้ที่ facebook fanpage : thai stunter




Special Scoop...

“ถนนปลอดภัยในสถานศึกษา” โดย บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
2012 350 Enduro Comparision :: Power Orange 350 vs. 350
ล้อแม็ก VS ล้ออลูมิเนียมอัลลอย
Cycle Clinic
WR250F Vs. CRF250X : The Japanese Enduro Test
Top 10 Best Superbike 2012
Test - Kawasaki Z1000 2012
ดอม เหตระกูล กับ Triumph มอเตอร์ไซค์ในฝันสำหรับคนรุ่นใหม่
Yamaha Press Member "Diasil Technology 2011"
เยือนประเทศลาว กับ Yamaha
Yamaha Fuel Saving Touring Contest