จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องของ Superbike รุ่นใหญ่รหัส CBR1000RR ตลอดหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงาน EICMA ปี 1991 ล่าสุด Honda เปิดผ้าคลุมโชว์ตัว CBR1000RR C-ABS โมเดล 2012 รุ่นฉลองครบรอบ 20 ปีในงานเดียวกันนี้ ด้วยคอนเซปท์สำหรับโมเดล 2012  คือ “การพัฒนาอย่างเป็นธรรมชาติของรถซูเปอร์สปอร์ต” ทีมพัฒนาของฮอนด้าตั้งใจปรับปรุงอัพเกรดในเรื่องของตัวเฟรมเน้นให้ขี่สนุก ยกระดับความนุ่มนวลในการบังคับด้วยช่วงล่างรุ่นใหม่หมดโดยเฉพาะโช้คหลังอัจฉริยะที่ถือเป็นครั้งแรกกับการนำมาใช้กับรถที่ผลิตที่เพื่อใช้บนท้องถนน  นอกจากนี้วิศวะกรยังอัดเทคโนโลยีใหม่ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้เข้ามาตอนสนองความต้องการตั้งแต่นักแข่งในสนามไปจนถึงมือใหม่ใจรักซูเปอร์ไบค์ ชักอยากรู้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในโมเดล 2012...

ปรับโฉมใหม่เข้าใจหลักอากาศพลศาสตร์

     โจทย์หลักของฮอนด้าคือ “กระทัดรัด” “เบา” และ “สมดุล” ทำให้ทีมงานตัดเฉือนแฟริ่งใหม่ตั้งแต่หัวจรดท้าย จุดเด่นที่ซ่อนอยู่ใต้เปลือกใหม่คือ “แฟริ่ง 2 ชั้น” ที่ช่วยให้มวลอากาศล้อมรอบตัวผู้ขี่เพิ่มความ “ชิล” ในการขับขี่แถมช่องลมใหม่ยังช่วยกดตัวรถลงในขณะเปิดคันเร่ง

ล้อใหม่จัดไป 12 ก้าน!

     ยกเซ็ตล้อหน้า-หลังใหม่เปลี่ยนเป็นล้อแม็กอลูมิเนียม 12 ก้านเพื่อความเสถียรและการทรงตัวที่ดี เมื่อรวมกันกับช่วงล่างรุ่นใหม่เส้นทางสายไหนก็ไม่ไกลเกินพิชิต

ช่วงล่างนุ่มแบบ VIP การันตีความละมุน

     โช้ครุ่นใหม่ถูกออกแบบเน้นให้นุ่ม-หนึบกว่าเก่าโดยเฉพาะโช้คหลังแบบ “Balance Free Rear Cushion” จากค่าย Showa มาพร้อมข้อต่อ Unit Pro-Link รุ่นเดียวกับที่ได้แชมป์ 2010 Japanese Superbike ด้านในเป็นกระบอก 2 ชั้นแบ่งเป็น 2 ห้องโดนเปลี่ยนจากการใช้วาล์วมาเป็นการอัดน้ำมันจากด้านในกระบอกสู่ด้านนอก เป็นผลให้โช้คหลังสามารถดูดซับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยมรวมถึงยึดเกาะถนนได้ดีในเวลาเดียวกัน  สามารถปรับแต่งโคให้เข้ากับสไตล์การขับขี่ด้วยตัวปรับแต่งที่อยู่บนกระบอกโช้คด้านนอก โช้คหน้าหัวกลับ Showa 43 มม. เปลี่ยนลูกสูบ-แดมเปอร์ใหญ่ขึ้น ช่วยร่นเวลายุบตัวจังหวะเบรกรุนแรงและเพิ่มหน้าสัมผัสยางกับพื้น ในช่วงเข้าโค้ง

ตัวถังแบบเรซซิ่ง-สตรีท

     เฟรมของ CBR1000RR ทำจากอลูมิเนียม 4 ชิ้นจัดเป็นที่สุดของเฟรมซูเปอร์ไบค์ที่ทั้งเบา, มั่นคง, แข็งแรง วิศวกรณ์ตั้งใจออกแบบให้เฟรมสมดุลโดยดึงจุดสูนย์ถ่วงมาอยู่ตรงกลางมากที่สุด  ถอดแบบมาจากตัวแข่ง RC211V แล้วปรับปรุงเพื่อให้ใช้งานจริงบนท้องถนน

มั่นใจระบบเบรก C-ABS หยุดได้ตามสั่ง

     ตั้งแต่ปี 1991 ที่ CBR1000RR ใช้ระบบเบรก Combine-ABS ที่ป้องกันการล็อคของล้ออย่างชาญฉลาดช่วยให้ผู้ขี่สามารถแตะเบรกได้อย่างมั่นใจที่ทุกความเร็ว โมเดล 2012 ใช้ปั๊มเบรกโมโนบล็อคทำจากอลูมิเนียมชิ้นเดียวเพื่อลดน้ำหนักและเพิ่มความมั่นคงในการเบรก

กันสะบัดอัจฉริยะ HESD 2nd Generation

     อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ฮอนด้าใส่เข้ามาใน CBR1000RR นั่นคือกันสะบัดไฟฟ้า Honda Electronic Steering Damper (HESD) เพราะกันสะบัดไฮดรอลิกส์รุ่นเก่าทำให้หน้ารถหนักและควบคุมยาก กันสะบัดไฟฟ้ารุ่นใหม่จึงถูกใส่เข้ามาโดยผ่านการควบคุมของระบบอิเล็กทรอนิกส์ กันสะบัดจะปรับความหนืดตามความเร็วโดยอัตโนมัติและทำให้หน้ารถหนักที่ความเร็วต่ำ

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สุดล้ำ

     หน้าจอ LCD Multifunction ถูกใส่เข้ามาเพื่อช่วยแสดงข้อมูลให้ผู้ขี่เข้าใจได้ง่ายขึ้น หน้าจอวัดความเร็วสามารถปรับแต่งได้ถึง 4 แบบพร้อมไฟแสดงสถานะต่างๆไม่ว่าจะเป็น ความเร็ว, วัดรอบ, ระดับน้ำมัน, ตำแหน่งเกียร์และชิฟท์ไลท์, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน, ฯลฯ

เครื่องยนต์กระทัดรัดแต่แฝงไว้ซึ่งพลัง

     เครื่องยนต์ของ Fire Blade ขึ้นชื่อเรื่องขนาดกระทัดรัดและอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสูบเคลือนสารนิเคิลซิลีคอนคาร์ไบด์ (Ni-SiC) เพื่อช่วยลดแรงเสียดทานและยืดอายุการใช้งาน, ชิ้นส่วนภายในเครื่องล้วนน้ำหนักเบาเพื่อเพิ่มการคอนโทรลรถและลดน้ำหนักรวม, หัวฉีดสุดอัจฉริยะถอดแบบมาจากตัวแข่ง PGM-DSFI โดยถูกปรับแต่งให้ “เชื่อง” ลงเมื่อขี่ด้วยความเร็วต่ำ แม้ไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านแรงม้าและทอร์คแต่การตอบสนองคันเร่งขยับขึ้นมากถึง 25% จุดเด่นอีกจุดอยู่ที่ Slipper Clutch ที่ยกมาจากตัวแข่ง RC212V ใน MotoGP ช่วยให้การสับเปลี่ยนเกียร์นุ่มลื่นขึ้น

     และด้วยรูปลักษณ์ที่สวยสะดุด โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ผนวกกับความแรงและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ Fire Blade โฉบใหม่นี้ เชื่อว่าคอซูเปอร์ไบค์ทั้งหลายคงยากที่จะอดใจและต้องหา ของ Fire Blade รุ่นนี้มาไว้ในครอบครองจนได้อย่างแน่นอน...และไม่แน่ว่าอาจจะมีข่าวดีสำหรับนักบิดไทยที่รักความเร็วความแรง เพราะล่าสุดฮอนด้าเตรียมซุ่มขนเอารถรุ่นใหญ่ไม่ว่าจะเป็น CBR1000RR Fire Blade, CBR600RR, Honda NC700X-NC700S, Cross Tourer เข้ามาให้สาวกปีกเหล็กได้เฮกันในปี 2012 ที่จะถึงนี้...รับรองว่าฝูงอินทรีย์ฝูงนี้บินมาถึงไทยเมื่อไหร่ Cycle Road จะรายงานให้ทราบทันที!