ReadyPlanet.com
dot
dot
bulletCycle contest
bulletNew Motorcycle
bulletMotor sport
bulletCycle Care
dot
dot
bulletThai Honda
bulletThai Yamaha
bulletThai Suzuki
bulletKawasaki Motor
bulletVespa Thailand
bulletOKD Shock
bulletStallions Motorcycle
bulletDucati Thailand
bulletBMW Thailand
bulletHarley-Davidson Thailand
bulletTriumph Thailand
dot
dot
bullet101bike
bulletเล่าเกียงเซ้ง
bulletธีระมอเตอร์ไซเคิล
bulletPanom Racing
bulletPanda Rider
bulletดำรงค์ยางยนต์
dot

dot


เพิ่มเพื่อน
www.cycle-road.com


WR250F Vs. CRF250X : The Japanese Enduro Test

     เพิ่มรสชาติความมันส์ให้เดือนกุมภาพันธ์ด้วยการทดสอบเฟ้นหาจ้าวแห่งป่ากับรถเอ็นดูโร่คลาส 250 ซีซี. เป็นศึกชิงชัยกันเองระหว่างรถแดนปลาดิบ มุมน้ำเงิน 2012 Yamaha WR250F และมุมแดง 2012 Honda CRF250X โดยทั้ง 2 รุ่นเป็นตัวที่กำลังจะเข้าตีตลาดสหรัฐอเมริกา...ฝุ่นจะตลบ...ดินจะปลิว...หญ้าจะกระจายแค่ไหน..ไปดูกัน!!

2012 Honda CRF250X

     เริ่มต้นกันที่มุมแดงกับรถสีแดง-ขาวเอกลักษณ์จากค่ายปีกนกฮอนด้า โมเดลที่ได้รับการอัพเดททั้งลุคและสมรรถนะ 2012 Honda CRF250X แค่ได้ลองขึ้นคร่อมแล้วจะร้องว่า “สบายแบบฮอนด้า” ด้วยความเป็นผู้นำในด้านเฟรมอลูมิเนียมและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้นักแข่งทางฝุ่นหลายคนไม่ลังเลที่จะเลือกขี่ฮอนด้า!

เฟรมมิเนียมได้เปรียบเบา-กว้าง

     “CRF เป็นรถที่นั่งสบายมาก เหมาะสำหรับขี่ลุยในสนามที่ต้องขี่นานๆ หรือทริปยาวๆ” นี่คือคอมเมนต์ยืนยันจากนักทดสอบ ตัวเฟรมอลูมิเนียมเจนเนอเรชั่นที่ 4 “ทวิน-สปาร์” พิเศษตรงเฟรมช่วงที่ติดกับขาผู้ขี่เว้าเข้าไป ช่วยเพิ่มพื้นที่การวางขาและเข่าซึ่งทำมุมพอดีกับแฮนด์บาร์และพักเท้า ผลลัพธ์คือความสบายทั้งในท่านั่งและท่ายืน
     “ทั้ง 2 รุ่นนี้ขี่สบายเหมือนกัน พักเท้า-แฮนด์บาร์-ก้านเบรกทำมุมกำลังดี...แต่ชั้นชอบ CRF มากกว่าเพราะมันรู้สึกเหมือนขี่รถวิบากของจริง” นักทดสอบสาวกล่าวชม CRF250X…ที่มาของความเบาคือน้ำหนักตัวรถเพียง 113.3 กก.เมื่อเติมน้ำมันเต็มถุงความจุ 7.1 ลิตร สัดส่วนน้ำหนักเทไปด้านหน้า 46.8% ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการขับขี่และเพิ่มความคล่องตัวในการควบคุมรถที่เหนือกว่า WR250F ยืนยันโดยนักแข่งเอ็นดูโร่ครอส ซึ่งเทคะแนนให้กับการเข้าโค้งและการปีนป่ายอุปสรรค์...นอกจากน้ำหนักตัวที่เบา ความคล่องตัวอีกส่วนหนึ่งมีที่มาจากเครื่องยนต์

SOHC เน้นเล็ก-เบา-ดีด

     น้ำหนักตัว 26.8 กก.ของเครื่องยนต์ 249 ซีซี. มาจากแคมชาฟท์เดี่ยวหรือ Single Overhead Cam Shaft (SOHC) คอยกดวาล์วไอดีไททาเนี่ยมขนาด 31 มม.และวาล์วไอเสียขนาด 26 มม. ช่วยให้เครื่องยนต์มีขนาดกระทัดรัดและน้ำหนักเบา ตัวแคมชาฟท์วางตำแหน่งต่ำลงไปในฝาสูบช่วยให้จุดสูนย์ถ่วงอยู่ต่ำลง กระบอกสูบxช่วงชัก 78x52.2 มม. อัตราอัด 12.9:1 น่าเสียดายที่ใช้คาบูเรเตอร์ Keihin Flat-side 37 มม. แทนที่จะเป็นหัวฉีด ข้อเสียของระบบคาบูเรเตอร์หลักๆ อยู่ที่อาการ “สะอึก” เมื่อกระแทกคันเร่งส่งมากเกินไป จากการทดสอบบนหลากหลายพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นบ่อทรายลึกหรือทางฝุ่นธรรมชาติแบบเปิด CRF250X คันนี้กลับเหมาะสำหรับการขี่แบบไทรอัล (Trial) เป็นเพราะมีกำลังย่านกลางในรอบสูง ระบบเกียร์ 5 สปีดมีกำลังมากพอสำหรับการ “ยกหน้า” ในช่วงเกียร์ 1-3 คลัทช์ “สุดดีด” เป็นอีกหนึ่งปัจจัยช่วยในการยกล้อหน้าในขณะที่ใช้แรงเย่อน้อยลง...ทำให้การไต่หน้าผาชันทำได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ CRF250X สามารถพิชิตอุปสรรค์โหดๆได้อย่างสบาย
“ผมไม่เคยสับเกียร์พลาดเลยซักครั้ง ต้องขอบคุณคลัทช์ของฮอนด้า...ของเค้าดีจริงๆ”

นุ่มสบายแบบฮอนด้า

     ขึ้นชื่อว่าเป็นรถวิบากต้องมาพร้อมโช้คหน้าเจ๋งๆ อย่างช่วงหน้าโช้คหัวกลับ Showa แบบแกนสองชั้นขนาด 47 มม. สามารถปรับหนืดและสปริงพรีโหลดได้ 16 ระดับ โหดไม่แพ้กันกับช่วงหลัง Pro-Link Showa พร้อมตัวปรับพรีโหลด 17 ระดับและปรับหนืดแก้สLow-Speed 13 ระดับ/ High-Speed 3.5 รอบ จากการทดลองขี่พบว่าน้ำหนักตัวแบบผู้ชายเมื่อขี่จะรู้สึกนุ่มนิ่มไปนิดโดยเฉพาะเมื่อสาดโค้ง แต่สำหรับผู้หญิงกลับรู้สึกหนึบกำลังดีตามสโลแกน “นุ่มสบายแบบฮอนด้า”  นักทดสอบมือโปร 2 คนถูกใจช่วงล่างของฮอนด้าทั้งระยะยุบและระยะห่างจากท้องรถถึงพื้น  “CRF โช้คนิ่มกว่า WR ซึ่งเป็นข้อดีเมื่อเจอกับหินหรือขอนไม้ แต่เมื่อทำความเร็วหรือโดดเนิน...รู้สึกว่ามันยวบไปหน่อย” นักทดสอบคนหนึ่งกล่าว...ระบบเบรก Nissin 2 พอร์ทด้านหน้ากับจานเบรก 240 มม.ถือว่าลงตัวเมื่อเทียบกับความเร็วและน้ำหนักของตัวรถ มีจุดสังเกตุ 1 จุดที่ทุกคนลงความเห็นตรงกันว่า “แปลก” นั่นก็คือเรือนไมล์...เล็กแถมใช้วัดระยะทางได้อย่างเดียว “มันเหมือนกับไมล์ของรถวิบากสมัยผมยังเด็ก” 
     โดยรวมแล้วถือว่ามีการปรับปรุงอย่างมากไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่ลดลง(จนรู้สึกเบากว่า WR) เครื่องยนต์ที่มีพละกำลังมากขึ้นในขณะที่น้ำหนักเบาลง แม้จะใช้คาบูเรเตอร์แต่การสตาร์ทรถในตอนเช้ากลับไม่ยากอย่างที่คิด มุมขาตั้งกวาดขึ้นสูง, ท่ายืนและนั่งขี่สบาย, พละกำลังที่ควบคุมได้พร้อมทั้งความทนทานของชิ้นส่วนรถแม้จะล้มบ่อยครั้งในการทดสอบ...ทั้งหมดนี้ทำให้นักทดสอบ 4 จาก 6 คนเลือก 2012 Honda CRF250X “ผมเคยผิดหวังกับรถสตาร์ทไฟฟ้านะ เพราะมันทำให้รถหนัก แต่กับ CRF250X คันนี้ผมว่ามันลงตัวเลยหละสตาร์ทก็ง่ายขี่ก็คล่องตัวยิ่งกว่า YZ250F ของผมอีก....ผมยอมแลก YZ-F กับ CRF250X เลยถ้าทำได้”
 

2012 Yamaha WR250F

     หลังจากถูกรีดีไซน์ในปี 2007 WR250F ก็เป็นที่ถูกใจเรื่อยมาสำหรับขาเอ็นดูโร่ และนี่คือโฉมหน้าของ 2012 Yamaha WR250F เอ็นดูโร่คันล่าสุดที่ใครหลายคนต่างฝันอยากเป็นเจ้าของ

250 ซีซี. DOHC พระเอกกล้ามโต

     ในเมื่อคะแนนด้านการควบคุมรถเทไปให้กับ CRF250X หมดแล้ว...ก็ต้องมาดูด้านสมรรถนะกันบ้าง เครื่องยนต์250 ซีซี.กับจุดเด่นที่ DOHC หรือแคมชาฟท์คู่ที่คอยกดวาล์ว 5 ตัวอย่างแม่นยำทำให้ได้พละกำลังมากกว่าฮอนด้า ภายใต้อัตราการอัด 12.5:1 ในปริมาตร 77x53.6 มม. นักทดสอบมือโปรบางคนชื่นชอบในพละกำลังมหาศาลนี้โดยเฉพาะในจังหวะโดดขึ้นหน้าผาหินที่อาศัยเพียงการบิดคันเร่งเบาๆ ชุดเกียร์ 5 สปีดกับคลัทช์ที่อาจไม่ลื่นเท่า CRF แต่นับว่าใช้งานง่ายในสไตล์รถญี่ปุ่น ระบบเชื้อเพลิงยังคงเป็นคาบูเรเตอร์เช่นเดียวกับ CRF เป็น Keihin Flat-Side 37 มม. แตกต่างที่ WR250F ไม่มีอาการ “วอด” เหมือน CRF ด้านซุ่มเสียงจากปลายท่ออาจเป็นรอง CRF แต่นักทดสอบต่างลงความเห็นด้านแรงบิดที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
     WR250F มีระบบสตาร์ทมือเช่นเดียวกันแต่ใช้งานได้ง่ายกว่าด้วยการจิ้มปุ่มเบาๆ ต่างจาก CRF ซึ่งต้องกำคลัทช์ด้วย (แบบเดียวกับรถออโตเมติกบ้านเรา) WR250F แม้จะมีกำลังมากกว่าฮอนด้าแต่ก็ถูกตัดทอนคะแนนด้านการบังคับรถ ทั้งในด้านน้ำหนักที่หนักถึง 117.4 กก. ไม่ใช่แค่หนักกว่าฮอนด้าแต่กลับหนักกว่า KTM 350 XCF-W ซะอีก โชคดีที่มี DOHC กับถังน้ำมันความจุ 7.9 ลิตรเข้ามาเพิ่มคะแนน “ผมไม่ชอบที่มันหนักขนาดนี้เลย...แต่บางครั้งมันก็ช่วยให้ผมกล้าข้ามท่อนซุงหรือขอนไม้หรือแม้กระทั่งลองท่าใหม่ๆ” นักทดสอบมือใหม่กล่าว

ช่วงล่างหนักหน่วง-แต่ดี !?

     น้ำหนักที่เทไปด้านหน้าถึง 48% ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่าช่วงหน้าหนักและควบคุมยากแต่กลับเข้าโค้งได้คมกว่า CRF นักทดสอบบางคนบ่นถึงความไม่บาลานส์ของโช้คหน้า Kayaba หัวกลับขนาด 48 มม. กับช่วงยุบ 299.7 มม. ในขณะที่บางคนกลับชอบความนุ่มนี้โดยเฉพาะเมื่อกระโดดเนิน แม้ความสูงจากเบาะถึงพื้นของ WR250F จะมากกว่า CRF250X ที่ราวๆ 22.8 มม. แต่เมื่อนั่งบนเบาะกลับรู้สึกสูงไม่ต่างกัน  อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้นักทดสอบรู้สึกลำบากในการควบคุมคือโช้คหลังที่แสดงอาการ “กระด้าง” ที่ความเร็วสูงเมื่อโช้คกดลงไปถึงช่วงแข็ง...แต่นั่นก็ทำให้ WR250F ทรงตัวได้“นิ่ง” เมื่อลุยบนทางหินลอย สนับสนุนการทรงตัวที่ดีด้วยเบรกหน้าหลังจาก Nissin ซึ่งนักทดสอบบางคนให้คะแนนระบบเบรกสูงกว่า CRF
     เสริมออพชั่นเพิ่มมูลค่ารอบคันไม่ว่าจะเป็น แฮนด์บาร์อลูมิเนียมโอเวอร์ไซส์โปรเทเปอร์ (Oversized ProTaper), พักเท้าขนาดใหญ่, กรองอากาศที่ถอดได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ, กันรอยเฟรมทำจากพลาสติกชิ้นเดียว ที่สำคัญคือระบบแสดงผลที่เจ๋งอย่าบอกใคร...มีทั้งนาฬิกา, วัดระยะทริป, ODO, มีเบสิกและเรซโหมดให้เลือกโดยจะเปลี่ยนเป็นตัวจับเวลาต่อรอบและคำนวนระยะทาง เรียกกว่าออกแบบมาเพื่อขาแข่งเอ็นดูโร่ตัวจริง แม้แฮนด์บาร์ ProTaper จะกว้างและถังน้ำมันไม่สูงเท่า CRF แต่เบาะกลับแข็งจนทำให้เมื่อยก้นเมื่อต้องอยู่บน WR250F เป็นเวลานาน “เบาะของ WR จัดว่าสวยแถมยาว แต่ถ้าคุณนั่งขี่มากกว่ายืนขี่...รับรองปวดก้นแน่นอน” ด้านดีไซน์ตัวรถ WR250F นับว่าสวยเฉียบตั้งแต่ไฟหน้าไล่บนจนถึงแผงคอ ตามไลน์ปีกหม้อน้ำไปจนถึงปลายท่อที่โผล่ออกมาจากฝาข้าง สิ้นสุดที่ไฟท้ายที่ซ้อนอยู่อย่างแนบเนียนใต้บังโคลนหลัง

จบคอร์สเอ็นดูโร่ได้เวลาตัดสิน!

     เมื่อสิ้นสุดวันบุกป่าอันยาวนาน นักทดสอบหลายคนลงความเห็นว่า Yamaha WR250F ได้คะแนนด้านพละกำลัง, ดีไซน์และอุปกรณ์ไฮเทค ส่วน Honda CRF250X ต้องยกคะแนนด้านการคอนโครลและความสบายในการขับขี่ที่ได้ชื่อว่า “สบายแบบฮอนด้า” มาลองดูราคาเปรียบเทียบทั้ง 2 รุ่น Yamaha WR250F 6,890 เหรียญสหรัฐ ส่วน Honda CRF250X 7,149 เหรียญสหรัฐ แม้จะไม่มีอุปกรณ์เจ๋งๆเหมือนรถจากโซนยุโรป...แต่การมีรถเอ็นดูโร่คลาส 250 ซีซี.ติดโรงรถไว้ซักคันสำหรับตะลุยป่าในวันหยุดนับว่าเป็นการผ่อนคลายชั้นเยี่ยม...แล้วคุณล่ะชอบคันไหน ?

 




Special Scoop...

“ถนนปลอดภัยในสถานศึกษา” โดย บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
2012 350 Enduro Comparision :: Power Orange 350 vs. 350
เส้นทางหฤโหด สู่การเป็น "ราชาแห่งสตั๊นท์"
ล้อแม็ก VS ล้ออลูมิเนียมอัลลอย
Cycle Clinic
Top 10 Best Superbike 2012
Test - Kawasaki Z1000 2012
ดอม เหตระกูล กับ Triumph มอเตอร์ไซค์ในฝันสำหรับคนรุ่นใหม่
Yamaha Press Member "Diasil Technology 2011"
เยือนประเทศลาว กับ Yamaha
Yamaha Fuel Saving Touring Contest