ReadyPlanet.com
dot
dot
bulletCycle contest
bulletNew Motorcycle
bulletMotor sport
bulletCycle Care
dot
dot
bulletThai Honda
bulletThai Yamaha
bulletThai Suzuki
bulletKawasaki Motor
bulletVespa Thailand
bulletOKD Shock
bulletStallions Motorcycle
bulletDucati Thailand
bulletBMW Thailand
bulletHarley-Davidson Thailand
bulletTriumph Thailand
dot
dot
bullet101bike
bulletเล่าเกียงเซ้ง
bulletธีระมอเตอร์ไซเคิล
bulletPanom Racing
bulletPanda Rider
bulletดำรงค์ยางยนต์
dot

dot


เพิ่มเพื่อน
www.cycle-road.com


เทคนิคการเบรคให้ปลอดภัยสูงสุด!

   ระบบเบรก นับได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับสำหรับความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดสำหรับยานพาหนะ  แต่น่าแปลกที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจเรื่องเบรกน้อยมาก  หลายคนมักจะให้ความสำคัญกับเรื่องของความแรงหรือรูปทรงภายนอกมากกว่า ไม่เคยมีใครสนใจว่าจะทำยังไงถึงจะหยุดรถได้ในระยะทางที่สั้นที่สุด หรือจะใช้เบรกในการคอนโทรลรถอย่างไร? ถึงจะปลอดภัยสูงสุด  ฉบับนี้เราจะขอแนะนำเรื่องของการใช้เบรก ที่ถูกต้อง รวมถึงความเข้าใจผิดๆ ในการใช้เบรกอีกด้วย

   เชื่อหรือไม่ว่าผ็ขับขี่มากกว่า 50% ยังใช้เบรกไม่ถูกต้อง และยังเข้าใจในเรื่องการใช้เบรกที่ไม่ถูกต้อง อาทิเช่น การใช้เบรกหลังเป็นหลัก ไม่เคยใส่ใจกับการใช้เบรกหน้า (หรือแถมจะไม่ได้ใช้เลยก็มี) เพราะคิดว่าการใช้เบรกหน้าจะทำให้รถล้มตีลังกา บางคนก็เข้าใจว่าการเบรกจนล้อล็อค (เสียงดังเอี๊ยด) เป็นการเบรพที่มีประสิทธิภาพ หรือชอบการกำคลัทช์เวลาเบรก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความเข้าใจที่ผิดทั้งสิ้น
   เราจะขอปูพื้นความรู้เรื่องการใช้เบรกให้เข้าใจเสียก่อน  ขอย้ำว่าการใช้เบรกกับระบบเบรกต่างกันนะครับ เพราะหากเป็นระบบเบรก ก็หมายถึง ระบบดรัเบรกหรือดิสก์เบรก ส่วนการใช้เบรกนั้นเป็นเทคนิคในการควบคุมรถให้หยุด โดยทั้วๆ ไป จะแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้
   เบรกหน้า (Front Brake) เป็นเบรกที่ให้ประสิทธิภาพในการหยุดรถดีที่สุด แต่จะทำให้รถเสียความสมดุลในการทรงตัวมากที่สุด เนื่องจากเมื่อกดเบรกหน้า น้ำหนักเกือบทั้งหมดของรถจะถูกเหวี่ยงมาด้านหน้าผ่านโช้คลงไปสู่ล้อหน้า (นี่แหละที่มาของคำว่า “เบรกหัวทิ่ม”) ณ จุดนี้จึงเป็นการลดความเร็วของรถทั้งคันอย่างแท้จริง เพราะมันมารวมอยู่ที่ล้อหน้าเกือบทั้งหมด แต่ด้วยน้ำหนักดังกล่าวนี้เองทำให้ช่วงหน้าหนักเป็นผลให้รถเลี้ยวยากตามไปด้วย
   เบรกหลัง (Rear Brake) จะให้ประสิทธิภาพในการเบรกน้อยกว่า แต่รถมีความสมดุลมากกว่า  เนื่องจากเมื่อกดเบรกหลังจะมีน้ำหนักบางส่วนกดลงมาที่ล้อหลัง แต่ส่วนใหญ่จะยังคงถูกเหวี่ยงไปยังด้านหน้าของรถตามแรงโมเมนตัม ณ จุดนี้จึงเป็นการลดความเร็วเพียงบางส่วนของทั้งหมด เพราะความเร็วส่วนที่เหลือได้ถ่ายไปยังด้านหน้ารถ (ฉะนั้นถึงแม้เบรกจนล้อหลังล็อค รถก็ยังคงวิ่งต่อไปได้ด้วยล้อหน้า) ทำให้ใช้ระยะทางในการเบรกมากกว่า แต่นี่เองทำให้น้ำหนักของรถกระจายไปยังล้อหน้า-หลังอย่างสมดุลเป็นผลให้ควบคุมรถในขณะเบรกได้ง่าย
เอ็นจิ่นเบรก  เป็นการเบรกรถด้วยการลดความเร็วของเครื่องยนต์  เป็นการใช้ระบบเกียร์เข้ามาช่วย โดยการหน่วงความเร็วของรถให้ต่ำลง หรือไม่ให้ความเร็วสูงเกิน  เป็นการลดจากเกียร์สูงลงสู่เกียร์ต่ำ โดยไม่กดคันเร่ง ในรถเกียร์ธรรมดาเป็นการเปลี่ยนลงเกียร์ต่ำกว่าเดิม แล้วถอนคลัทช์โดยไม่บิดคันเร่ง เอ็นจิ่นเบรกส่วนใหญ่เรามักจะใช้ในทางโค้งลาดชัน แต่หากเป็นทางราบก็อาจจะได้ผลบ้างเล็กน้อย แต่ก็ต้องเป็นการลดเกียร์แบบทีละสเต็ป อย่างไรก็ตาม “เอ็นจิ่นเบรก” ก็มีทั้งผลดีและปลเสียเช่นกัน เพราะหากเราลดเกียร์ต่ำที่ความเร็วสูงเกินไปในขณะที่เครื่องยนต์รอบจัดอัตราทดเกียร์สูง เครื่องยนต์ก็อาจหมุนรอบจัดจนถึงขั้นพังเสียหายได้ เปรียบเทียบแล้วได้ไม่คุ้มเสีย ช่วยชะลอความเร็วได้นิดเดียว แต่ผลเสียมากมาย
วิธีการเบรกที่ถูกต้องจะใช้เบรกหน้าและหลังเป็นหลัก และจากคุณสมบัติของเบรกที่กล่าวมาข้างต้นเราจึงสามารถสรุปได้ว่า การเบรกที่ดีควรให้น้ำหนักการกดเบรกหน้าประมาณ 70-80% และหลังประมาณ 20-30% และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรกดเบรกหลังก่อนเล็กน้อยเพื่อการกระจายน้ำหนักและประสิทธิภาพการเบรกที่ดีกว่า แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ให้กดพร้อมกันเลย สำหรับฉบับนี้เราคงจะว่าเป็นเพียงแค่เรื่องของวิธีการใช้เบรก ส่วนในฉบับหน้าสำหรับผู้ที่ยังมีความเข้าใจผิดๆ ในเรื่องของการใช้เบรกพลาดไม่ได้ เพราะเราจะมาว่ากันอย่างละเอียดในเรื่องเทคนิคต่างๆ ของการใช้เบรก และไขปัญหาต่างๆ ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง....


 




Cycle Care...

ล้อและยาง - เรื่องพื้นฐานของมอเตอร์ไซค์
ตรวจเช็ครถให้พร้อม ก่อนออกทริป!!
การปรับความหนืดของ "โช๊คอัพ"
สภาพรถ Big Bike มือสอง
ฮีทสโตรก
การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ในช่วงฤดูร้อน
น้ำมันเบรก : เรื่องที่ต้องรู้
เรื่องของ " หัวเทียน "
ดูแลระบบส่งกำลังแบบ "สายพาน" ด้วยตัวเอง
การดูแลระบบความร้อน