ReadyPlanet.com
dot
dot
bulletCycle contest
bulletNew Motorcycle
bulletMotor sport
bulletCycle Care
dot
dot
bulletThai Honda
bulletThai Yamaha
bulletThai Suzuki
bulletKawasaki Motor
bulletVespa Thailand
bulletOKD Shock
bulletStallions Motorcycle
bulletDucati Thailand
bulletBMW Thailand
bulletHarley-Davidson Thailand
bulletTriumph Thailand
dot
dot
bullet101bike
bulletเล่าเกียงเซ้ง
bulletธีระมอเตอร์ไซเคิล
bulletPanom Racing
bulletPanda Rider
bulletดำรงค์ยางยนต์
dot

dot


เพิ่มเพื่อน
www.cycle-road.com


2012 350 Enduro Comparision :: Power Orange 350 vs. 350

   เมื่อก่อนศึกชิงดีชิงเด่นระหว่างรถวิบากมักจะวัดกันที่รุ่น 2 จังหวะ...แต่อะไรๆ ก็เปลี่ยนไปเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นทำให้การผลิตรถ 4 จังหวะที่ทรงพลังเป็นอะไรที่ผู้ผลิตรถวิบากเจ๋งๆ จากทั่วโลกต่างแข่งขันกัน ล่าสุดคำถามที่พบบ่อยก็คือ “รุ่นไหนดีกว่ากัน ระหว่าง 250 และ 450 ซีซี.” และนี่คือคำตอบล่าสุกจากปี 2012....ก็ 350 ซีซี.ไง !!

• 2012 Beta 350 RR

   รถวิบากอิตาเลี่ยน Beta กับคอนเซ็ปท์ The Play Bike ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเอาไว้ “ขี่เล่น” แต่สมรรถนะมันเอาไว้ลุยจริงแถมยังมีชื่อเสียงมานานตั้งแต่ยุค 90 โน่น ล่าสุด Beta ส่งรถคลาส 350 ซีซี.ลงมาสู้กับ KTM 350 ในเส้นทางฝุ่น ใครจะเหนือกว่าใครมาดูกันเลย
   เริ่มจากเครื่องยนต์หัวใจหลักของ Beta 350 RR ที่ข้างในแทบจะเหมือนกับ KTM ทุกอย่าง กระบอกสูบ x ช่วงชักที่ 88 x 57.4 มม. (KTM 57.5 มม.) แม้ Beta 350 จะเปิดตัวไปเมื่อปี 2011 แต่ปีนี้ Beta ก็ได้ปรับปรุงโมดิฟายรถของตัวใหม่ให้เหนือกว่าคู่แข่ง ด้วยการเปลี่ยนรูปทรงฝาสูบใหม่ให้รับกับแคมชาฟท์และโซ่ราวลิ้นรุ่นใหม่ที่แข็งแรงขึ้น แถมเปลี่ยนลูกปืนเคาท์เตอร์บาลานซ์ใหม่รวมถึงย้ายตำแหน่งน็อตถ่ายน้ำมันเครื่องช่วยให้สะดวกเวลาบำรุงรักษา อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนคือคาบูเรเตอร์ Keihin FCR ขนาด 39 มม.ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างในแบบคาบูฯเมื่อเทียบกับหัวฉีดของ KTM อาการสั่นยังพบได้บ้างขณะเชนเกียร์ลงรอบต่ำ เมื่อวัดความแรงจากไดโนพบว่ากราฟไม่พุ่งเท่า KTM แต่จากฟีลของนักทดสอบพบว่ามันแรงแบบ “เอาอยู่” Beta 350 RR จะพาคุณพุ่งทยานไปด้วยสัญชาติญาณในตัวมันเองทำให้เราเหนื่อยน้อยลงเวลาขับขี่ “Beta เหมือนเกิดใหม่ ยิ่งถ้ามีปลายท่อเจ๋งๆ ติดตัวมาซักอันนะ...” นักทดสอบกล่าวชม ในส่วนของแรงม้าและแรงบิดคงสู้ KTM XCF-W ไม่ได้เพราะที่ 6,000 นอบ/นาที KTM ยังไปต่อได้อีก “กำลังแรงไหลลื่น...แต่ไม่เท่า KTM” นักทดสอบแอบน้อยใจกับกำลังแรงม้าและแรงบิดที่ขัดแย้งกับระบบคาบูเรเตอร์ 
   การยึดเกาะแทร็คดีเยี่ยมเป็นหนึ่งในข้อดีที่กระโดดแซงหน้ากำลังเครื่องยนต์ ยางหน้าหลังจาก Pirelli ช่วยตระกรุยดินได้ดีเยี่ยม เกียร์ 6 สปีดของ Beta ให้ความรู้สึกถึงความกว้างของช่วงเกียร์มากกว่า KTM เจ๋งกว่านั้น! Beta ใจดีใส่คลัทช์ไฮโดรลิกปั๊มมาสเตอร์ Brembo ช่วยให้เหนี่ยวคลัทช์นิ่มละมุนนิ้ว แต่ก็มีจุดบกพร่องอยู่บ้างในช่วงเลียคลัทช์ขึ้นทางชันและจังหวะเชนเกียร์เข้าโค้งลงเนิน มั่นใจในเรื่องอายุการใช้งานเครื่องยนต์ได้เลยเพราะว่าน้ำมันเกียร์กับน้ำมันเครื่องแยกส่วนกัน ด้านหน้าสังเกตุอีกหนึ่งความแตกต่าง โช้คหน้า Sachs TFX หัวกลับมาแทนที่ Marzochhi  โดยเพิ่มเติมความสามารถในการปรับรีบาวด์ด้านบนและปรับคอมเพรสชั่นด้านล่าง แผงคอถูกออกแบบใหม่ให้รับกับโช้คใหม่แคล๊มป์แบบล็อค 3 จุด โช้คหลังแน่นอนว่าเป็น Sachs ที่ทำงานเข้ากันกับด้านหน้าเป็นอย่างดี จากการทดสอบฟันธงได้เลยว่าเซ็ตติ้งของโช้คเดิมเหมาะกับทางขรุขระแบบโลว์สปีด เฟรมเหล็กโครโมลี่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ไร้อาการสั่น ตัวเฟรมและโช้คเหมาะกับการสาดโค้งหรือลุยหินลอยโยเฉพาะจังหวะสะบัดท้ายออกจากแบงก์  ส่วนของเบาะที่นั่งนุ่มสบายแถมยึดเกาะ “ก้น” ของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี (ดีกว่า KTM อีก) แฮนด์บาร์วางตำแหน่งไกลออกไปช่วยยืดระยะการจับแฮนด์เพิ่มช่องว่างระหว่างขาเหมาะกับการยืดกดรถเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ จานเบรกหน้า 260 มม. และ 240 มม.ด้านหลังลายใหม่มีระยะและแรงเบรกที่ดีเยี่ยม แม้จะใช้เบรกจาก Brembo เหมือนกันแต่น้ำหนักตัวที่ต่างกันถึง (หนักกว่า) ถึง 9.9 กก. จนรู้สึกได้ถึงความแตกต่างเมื่อเบรกแรงๆ ถ้า Beta เข้าคอร์สลดน้ำหนักได้มากกว่านี้คงดีแน่นอน
   นักทดสอบ 2 ใน 3 ลงความเห็นตรงกันในด้านความคุ้มค่ากับอุปกรร์ต่างๆ ที่ติดรถมา ไม่ว่าจะเป็นแผ่นกันแคร๊งก์อลูมิเนียม, ดุมล้อทรงพลัง, ล้อสีดำดุ, เฟรมสีแดง(เกือบส้ม)แลลพาวเดอร์โค้ทพร้อมตัวกันเฟรมพลาสติกช่วยให้ Beta คันนี้ดูโดดเด่นแต่ไกล  การถอดกรองอากาศทำได้โดยไม่ต้องถอดเบาะ แต่ Beta ใส่อุปกรณ์มาให้ที่ใต้เบาะซึ่งนักทดสอบชอบตรงจุดนี้ บริเวณท้ายเบาะมีการปาด-เจาะสำหรับให้จับหรือยกรถในกรณีที่รถล้มนับเป็นความใส่ใจจากผู้ผลิตรถอิตาเลี่ยน “ผมชอบนะที่ Beta มาพร้อมอุปกรณ์รอบคันอย่างแผ่นกันแคร๊งก์, ที่จับตรงเบาะแล้วก็เบาะที่ถอดได้ง่าย” นักทดสอบกล่าวชม และด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่โดนใจทำให้นักทดสอบต่างเทคะแนนให้กับรูปลักษณ์, อุปกรณ์เจ๋งๆ และความเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ แต่ในส่วนของคะแนนสมรรถนะ, เครื่องยนต์และการคอนโทรลรถต้องยกให้ KTM ว่าแล้วก็โดดไปดู KTM ที่ว่ากัน!
 

• KTM 350 XCF-W

   เปิดตัวโมเดลล่าสุด 2012 ในราคา 9,149 เหรียญสหรัฐ เป็นโมเดลที่รถซีซี. ลงแต่ด้วยความเบาของเฟรมทำให้เจ้า 350 XCF-W กลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของคลาส 450 ซีซี.
   มาดูรอบๆ คันกันดีกว่าเริ่มจาก โช้คหลังเดี่ยวแบบ PDS จาก WP ยาวขึ้นอีก 7 มม.เพิ่มกราวด์เคลียแรนซ์ (ระยะจากท้องรถถึงพื้น) ช่วยให้ได้เปรียบตอนเข้าแบงก์และยังบำรุงรักษาได้ง่าย น่าแปลกที่โช้ครุ่นใหม่ไร้กระเดื่องจะสามารถรองรับการกระแทกได้ดีขนาดนี้ ช่วงหน้าโช้คหัวกลับ WP เช่นเดียวกันแต่ขยายไซส์ขึ้นเป็น 48 มม.พร้อมเปลี่ยนซีลน้ำมันเป็น SKF…KTM จัดการอัพเกรดเฟรมใหม่เพื่อรับกับโช้ค WP ด้วยเฟรมเหล็กโครโมลี่รุ่นใหม่ทำให้น้ำหนักตัวลดลงไปเหลือ 116 กก. เมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง 9.5 ลิตร (เบากกว่า Yamaha WR250F อีก!!) ดูเหมือนเจ้า KTM 350 คันนี้จะเบาเหมือนรถรุ่นเล็ก แต่พละกำลังจากเครื่องยนต์ช่างขัดกับหน้าตาไม่ว่าจะโดดเนินระเบิดทรายหรือปีนป่ายขอนไม้ใหญ่ ช่วงล่างของ KTM 350 เหมาะกับการขับขี่ที่ความเร็วสูงและเกิดอาการกระด้างเมื่อเจอกับกองทัพลูกระนาดที่ความเร็วต่ำ “ที่ผมชอบใน KTM คันนี้คือช่วงล่าง โช้คหน้าแบบว่านุ่มมากจนผมกระแทกๆ มันเข้าไปเมื่อเจอเนิน และมันก็ยังคงนุ่มแม้เจอเนินลูกใหญ่ น้ำหนักตัวที่เบาของ KTM ทำให้ได้เปรียบและพร้อมลุยทุกสนาม” นักทดสอบถึงกับเอ่ยชมความนุ่มของ KTM คันนี้

   ในด้านของเครื่องยนต์ เกียร์ 6 สปีดมีข้อเสียที่เกียร์ 1 ค่อนข้างสั้น แต่เมื่อสับไล่จนถึงเกียร์ 6 ก็เพียงพอสำหรับสนามยาวๆ เสตอร์หน้า/หลัง 13/52 มีอัตราทดกำลังพอสำหรับไต่ภูเขาสูงชัน คลัทช์ไฮดรอลิกเพิ่มความนุ่มนิ้วเมื่อเรียกใช้งานแถมเหนือกว่า Beta ในด้านการออกแบบ ในด้านเบรก... Brembo ดั้งเดิมติดรถนับว่ามีชื่อเสียงเรื่องการเบรกอยู่แล้ว แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาทำให้ได้เปรียบยกกำลังสอง น่าแปลกที่รถ KTM ทุกคันจะมีเบรกหน้าที่หนึบเป็นพิเศษ เรียกว่าใช้แค่นิ้วเดียวก็เพียงสำหรับการเบรกจนล้อหลังลอย ยางหน้า-หลังจากโรงงานเป็นของ Dunlop Geomax MX51 “ผมว่าเบรกของ KTM เจ๋งสุดแล้ว นอกจากแรงเบรกมหาศาลแล้วยังมีความสวยงามจากจานเบรกลายลูกคลื่นอีก” นอกจากปัจจัยภายนอกด้านในเครื่องยนต์ยังมีชิ้นส่วนใหม่ที่ช่วยให้น้ำหนักตัวรวมเบาลง เช่นลูกสูบและแคมชาฟท์ที่ถูกจูนใหม่ให้ปลดปล่อยรอบที่จัดจ้านที่สุด ระบบหัวฉีด EFI อาจไม่ทันใจเท่าคาบูเรเตอร์ แต่หัวฉีดอัจฉริยะก็มีดีที่คุณสามารถสับเกียร์ให้ต่ำสุดแล้วเปิดคันเร่งได้โดยไม่มีอาการกระตุกแม้แต่น้อย กำลังย่านกลาง-สูงรองรับการขับขี่ทั้งแบบสับสั้นหรือลากยาวเล่นรอบสูง “เครื่องยนต์ของ KTM แกร่งกว่าเห็นๆ พละกำลังที่แกร่งและนุ่มในเวลาเดียวกัน...มันคงดีกว่านี้ถ้าช่วงเกียร์ยาวขึ้นอีกหน่อย” ในส่วนของออพชั่นรอบคันไม่ว่าจะเป็น วงล้อ Excel AL7, แฮนด์การ์ด, บอดี้ใหม่, ถังน้ำมันรุ่นใหม่, กรองอากาศถอดได้ด้วยมือเปล่าและอีกมากมาย ในด้านการขับขี่ 350 XCF-W นับว่าน่าประทับใจ แฮนด์บาร์งอขึ้นทำมุมพอดีกับช่วงขาอาจต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยกันเล็กน้อย  ถังน้ำมันแบบใสสะดวกสำหรับเช็คระดับน้ำมันแต่ก็ทำให้ใช้เข่าหนีบลำบากพอสมควร  เบาะที่นั่งสูงและไม่นุ่มเท่ากับของ Beta แต่ก็ยังถือว่าดีกว่าตัวปี 2011 นักทดสอบคลาสออฟโรดที่เก่งที่สุดสรุปว่า “KTM ตัวนี้เป็นโมเดลที่ลงตัวที่สุด ไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนอะไรทั้งนั้นแม้แต่ท่อไอเสียราคาแพงๆ Beta ก็เป็นรถที่ดีแต่สมรรถนะยังไม่ดีเท่าที่ควร แมถต้องไปลดน้ำหนักตัวมาอีกหน่อย”
   สรุปแล้ว KTM เป็นรถที่ดีพร้อมทุกอย่างแต่ Beta ก็ลุยได้ทุกสภาพภูมิประเทศแถมคล่องตัวในด้านการคอนโทรลรถ คราวนี้ก็อยู่ที่ว่าคุณชอบรถจากอิตาลี่หรือออสเตรีย
 




Special Scoop...

“ถนนปลอดภัยในสถานศึกษา” โดย บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด
เส้นทางหฤโหด สู่การเป็น "ราชาแห่งสตั๊นท์"
ล้อแม็ก VS ล้ออลูมิเนียมอัลลอย
Cycle Clinic
WR250F Vs. CRF250X : The Japanese Enduro Test
Top 10 Best Superbike 2012
Test - Kawasaki Z1000 2012
ดอม เหตระกูล กับ Triumph มอเตอร์ไซค์ในฝันสำหรับคนรุ่นใหม่
Yamaha Press Member "Diasil Technology 2011"
เยือนประเทศลาว กับ Yamaha
Yamaha Fuel Saving Touring Contest