VESPA Sprint 150 3Vie ABS
สัมผัสสองล้อคลาสสิคยุคใหม่ แรงบันดาลใจจากยุค 70
นักเล่นรถหลายคนคงรู้จักรถเวสป้าเป็นอย่างดี ด้วยประวัติที่มีชื่อเสียงอันยาวนาน บวกกับรูปลักษณ์ที่สวยงาม ความคงทนและความอึดของเครื่องยนต์ ทำให้มันกลายเป็นรถของนักสะสมรถคลาสสิค ซึ่งบางรุ่นนานๆ จะได้เห็นซักที ในปัจจุบันบางรุ่นใช้สำหรับส่งของ ส่งผ้าแถวๆ พาหุรัดและเยาวราชเท่านั้นเอง แต่ในช่วง 2-3 ปีมานี้กระแสความนิยมชมชอบสองล้อย้อนยุคหรือ “รถคลาสสิค” มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ด้วยสไตล์ที่เรียบง่ายบวกกับความ “เก๋า” ในตัวของมันเองทำให้มันมีเสน่ห์น่าชวนมองและหลงใหลเป็นนักเชียว
หลังจากที่บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์พรีเมี่ยมสัญชาติอิตาลี “เวสป้า” และ “พิอาจิโอ” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้นำความคลาสสิคนั้นกลับมาให้ยลโฉมอีกครั้ง กับเวสป้ายุคใหม่แต่แฝงความคลาสสิคเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ซึ่งนำเข้ามาจำหน่ายมากมายหลายรุ่น ในฉบับนี้ขอยกเอาจอเหลี่ยมเจ้าเสน่ห์ VESPA Sprint 150 3Vie ABS มาให้รู้จักกันซักนิดก่อนที่ใครหลายๆ คนจะกำตังส์ไปคว้ามาเป็นเข้าของ
ภายนอกคงความเก๋า อ๊อฟชั่นเพียบ
คนเล่นรถคลาสสิคถ้าเอ่ยถึงรถเวสป้า “Sprint” บางคนร้องอ๋อ จนเรียกกันติดปากว่า สปรินท์หัวโตหรือสปรินท์หัวเหลี่ยมนั้นเอง ส่วนรุ่นใหม่อย่าง VESPA Sprint 150 3Vie ABS ความสวยงามต้องยกป้ายให้คะแนนเต็ม 10 ไม่ว่าจะเป็นคนนิยมรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ๆ พอได้เห็นเรือนร่าง Sprint 150 3Vie ABS ก็คงต้องอ้าปากค้าง แน่นอนว่าไฟหน้ายังคงเป็นแบบเหลี่ยมเหมือนรุ่นปู่ โคลงสร้างตัวรถเน้นความแข็งแรงเป็นแบบเหล็กแต่แฝงความคลาสสิคย้อนยุคอย่างลงตัว ขอบคิ้วด้านข้างกระบังลมใส่โครมเมียมจนเงาวับ กระจกมองข้างทรงเท่แบบก้านยาว เรือนไมล์เป็นแบบไฟฟ้า ระบบดิจิตอลผสมอนาล็อคพร้อมสัญญาณไฟต่างๆ แฮนด์ฝั่งขวามีสวิทช์เปิด/ปิดไฟ สวิทช์โหมดปรับตั้งค่าการเดินทางTrip A/B, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง, นาฬิกาและสวิทช์สตาร์ทเครื่องยนต์ ส่วนแฮนด์ฝั่งซ้ายเป็นสวิทช์ปรับไฟต่ำ/ไฟสูง, สัญญาณไฟเลี้ยวและแตร เบาะนั่งใบเดียวเน้นนั่งสบายสามารถเปิดเบาะด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Saddle Opening) ขนาบข้างด้วยกันตกแบบชุปโครมเมี่ยม บังลมด้านหน้าดั่งไม่โด่งเหมือนรุ่นปู่แต่มีครีบรับลม 3 ช่อง พร้อมไฟเลี้ยวฝังในแบบเลนท์ใสและไฟหรี่ LED บังโลนหน้ายังคงความคลาสสิคทรงกลมๆ ไฟท้ายขนาดใหญ่สีแดงแบบ LED ไฟเลี้ยวด้านหลังแบบฝังใน บังโคลนท้ายแบบกว้างแปะด้วยทับทิมสะท้อนแสง ท่อไอเสียแบบใหม่ดีไซน์ปราดเปรียวกว่าเดิม ด้านหลังกระบังลมยังมีเก๊ะใส่ของพร้อมกับช่องเสียบ USB สำหรับอุปกรณ์สื่อสารมาให้ด้วย
ขุมกำลัง 4 จังหวะ สูบเดียว 3 วาล์ว ประหยัดน้ำมันด้วย I-get
ต่อเนื่องกันด้วยเรื่องของกำลังเครื่องยนต์ VESPA Sprint 150 3Vie ABS เป็นแบบ 4 จังหวะ สูบเดียว 3 วาล์ว SOHC ขนาดความจุ 154.8 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยด้วยอากาศ โดยมีชุดพัดลมข้างเครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นมวลอากาศเข้าไปสู่เสื้อสูบ ปริมาตรกระบอกสูบ x ช่วงชัก = 58.0 x 58.6 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบอิเล็คทรอนิคส์ P.I. Injection (Port Injection) กำลังสูงสูงอยู่ที่ 12.7 แรงม้าที่ 7,750 รอบ/นาที แรงบิตสูงสุดอยู่ที่ 12.8 นิวตัน-เมตร ที่ 6,500 รอบ/นาทีระบบเกียร์แบบแบบออโต้เมติก Twist-and-go CVT พร้อมทอร์คเซิร์ฟเวอร์ สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ VESPA Sprint 150 3Vie ABS ยังมากับระบบI-get แบบใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพสูง ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมด้วยมอเตอร์สตาร์ทใหม่ให้
ช่วงล่างพิมพ์นิยม ดิสก์หน้า ดรัมหลัง เสริมความมั่นใจด้วย ABS ล้อแม็ก 12 นิ้ว
การทำงานของระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นโช้คอัพแบบคอยล์สปริง ทำงานร่วมกับโตงเตงแบบแขนเดียวเหมือนรุ่นพี่ และให้ความนุ่มนวลขณะขับขี่ มีระยะการยุบตัว 78 มม. ด้านหลังเป็นโช้คอัพเดี่ยว สามารถปรับความแข็ง/อ่อนของสปริงได้ 4 ระดับ มีระยะการยุบตัว 70 มม. ส่วนระบบเบรกด้านหน้าเป็นจานดิสก์แบบตายตัวขนาด 200 มม.คาลิเปอร์ 2 ลูกสูบ พ่วงด้วยระบบความปลอดภัย ABS (Anti-Lock Braking System) และ Tilt sensor เซนเซอร์ตรวจจับการเอียงของรถเพื่อเสริมความปลอดภัยระหว่างการขับขี่มากยิ่งขึ้น ส่วนชุดเบรกด้านหลังเป็นดรัมเบรกขนาด 140มม.สั่งการด้วยสายสลิง วงล้อหน้า/หลังเป็นล้ออลูมิเนียมอัลลอยแบบ14 ก้าน เพิ่มขนาดจากรุ่นก่อนหน้านี้ 11นิ้ว มาเป็น 12 นิ้ว ยางหน้ามีขนาด 110/70-12 ยางหลังมีขนาด 120/70-12 มิติของตัวรถ กว้าง735 มม. ยาว 1,860 มม. ความสูงของเบาะ790 มม. ระยะห่างของฐานล้อ 1,340 มม. น้ำหนักโดยรวม 120 กิโลกรัม ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 8.5 ลิตร
ลองของจริง: ท่านั่งปรับเล็กน้อย การทรงตัวดี ระบบเบรกเยี่ยม อัตราเร่งกำลังดี
มาถึงช่วงทดลองการขับขี่อย่างแรกว่ากันในเรื่องของท่านั่งที่ในรุ่นนี้เพิ่มความสูงขึ้นมาอีกนิด ด้วยขนาดของล้อที่เพิ่มมาเป็น 12 นิ้ว แต่ก็ไม่ได้มากเท่าไหร่นัก สำหรับคนที่ไม่สูงอาจจะต้องเขย่งเท้ากันซักนิด แต่เมื่อออกตัวไปแล้วการนั่งก็จะสบายด้วยเบาะที่กว้างและนุ่ม รับกับองศาของแฮนด์ที่กว้างทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกสบาย ลดอาการเมื่อยล้าเมื่อต้องขับขี่ทางไกลๆ ส่วนตำแหน่งการวางเท้าเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ การทรงตัวต้องบอกก่อนว่าช่วงแรกที่ขับขี่นั้นมีอาการเลี้ยวยาก ด้วยความที่ไม่คุ้นชินกับตัวรถจึงลองขี่หลายๆ รอบและอาการเลี้ยวยากก็หายไปเปลี่ยนเป็นความเพลิดเพลินเข้ามาแทน จากนั้นก็เพิ่มความเร็วเพื่อทดสอบระบบเบรกที่พ่วง ABS ที่เสริมเข้ามาในรุ่นนี้ ซึ่งบางช่วงต้องใช้เบรกหนักในการเข้าโค้งที่แคบ ก็ถือว่าทำได้น่าประทับใจ เสริมความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ไปอีกขั้น แถมยังมีเซนเซอร์ตรวจวัดการเอียงของรถมาให้อีกด้วย ในส่วนของอัตราเร่งช่วงรอบต้นนั้นทำได้ดี บิดติดมือ เร่งออกโค้งไว้ ส่วนอัตราเร่งรอบกลางและปลายอยู่ในระบบปานกลาง ไม่หวือหวามากนัก เน้นการขับขี่ในเมืองหล่อๆ เท่ห์ๆ และเน้นประหยัดน้ำมัน