ตอนนี้ ผลงานล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสารScience of the Total Environmentได้แสดงให้เห็นว่า Pu ถูกรวมอยู่ในไมโครอนุภาคที่อุดมด้วยซีเซียม (CsMPs) ที่ถูกปล่อยออกมาจากไซต์ CsMPs เป็นอนุภาคกัมมันตภาพรังสีขนาดเล็กที่ก่อตัวขึ้นภายในเครื่องปฏิกรณ์ฟุกุชิมะ เมื่อเชื้อเพลิงนิวเคลียร์หลอมเหลวมีปฏิสัมพันธ์กับคอนกรีตโครงสร้างของเครื่องปฏิกรณ์ เนื่องจากสูญเสียการกักเก็บในเครื่องปฏิกรณ์ อนุภาคจึงถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ หลายคนถูกฝากไว้ทั่วประเทศญี่ปุ่น

จากการศึกษาพบว่า CsMP มีกัมมันตภาพรังสีอย่างเหลือเชื่อและประกอบด้วยแก้ว (ที่มีซิลิกาจากคอนกรีต) และเรดิโอซีเซียมเป็นหลัก แม้ว่าผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการกระจายของ CsMPs ยังคงเป็นหัวข้อที่มีการถกเถียงกันอย่างแข็งขัน การเรียนรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบทางเคมีของ CsMP ได้แสดงให้เห็นเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นมากเกี่ยวกับธรรมชาติและขอบเขตของการล่มสลายของ FDNPP

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในScience of the Total Environmentซึ่งเกี่ยวข้องกับนักวิทยาศาสตร์จากญี่ปุ่น ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา นำโดย Dr. Satoshi Utsunomiya และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา Eitaro Kurihara (ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยคิวชู) ทีมงานใช้เทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูงร่วมกัน (การวิเคราะห์ไมโครเอ็กซ์เรย์โดยใช้ซินโครตรอน การวิเคราะห์มวลไอออนทุติยภูมิ และกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราดความละเอียดสูง) เพื่อค้นหาและกำหนดลักษณะของปูที่มีอยู่ในตัวอย่าง CsMP

นักวิจัยเริ่มค้นพบยูเรเนียมไดออกไซด์ที่มีขนาดเล็กอย่างไม่น่าเชื่อซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 10 นาโนเมตรภายใน CsMPs; สิ่งนี้บ่งชี้ว่าอาจมีการรวมเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ไว้ในอนุภาค จากนั้นการวิเคราะห์โดยละเอียดเปิดเผยว่าสารเข้มข้นของ Pu-oxide นั้นเกี่ยวข้องกับยูเรเนียมเป็นครั้งแรก และองค์ประกอบไอโซโทปของ U และ Pu นั้นตรงกันซึ่งคำนวณสำหรับสินค้าคงคลังเชื้อเพลิงที่ฉายรังสี FDNPP

ดร. Utsunomiya กล่าวว่า "ผลลัพธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความหลากหลายในระดับนาโนที่พบได้ทั่วไปในเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ปกติยังคงมีอยู่ในเศษเชื้อเพลิงที่ยังคงอยู่ภายในเครื่องปฏิกรณ์ที่เสียหายของไซต์ นี่เป็นข้อมูลสำคัญตามที่บอกเราเกี่ยวกับขอบเขต/ความรุนแรงของ การหลอมเหลว นอกจากนี้ นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับการรื้อถอนเครื่องปฏิกรณ์ที่เสียหายในท้ายที่สุดและการจัดการของเสียในระยะยาว"

เกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดร. Utsunomiya กล่าวว่า "อย่างที่เราทราบอยู่แล้วว่า CsMPs ถูกกระจายไปทั่วบริเวณกว้างในญี่ปุ่น (สูงสุด 230 กม. จาก FDNPP) Pu จำนวนเล็กน้อยก็มีแนวโน้มที่จะกระจายตัวในลักษณะเดียวกัน"

ศาสตราจารย์แกเร็ธ ลอว์ ผู้ร่วมเขียนบทความจากมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ระบุว่าทีมวิจัย "จะยังคงกำหนดลักษณะและทดลองกับ CsMP ต่อไป เพื่อพยายามทำความเข้าใจพฤติกรรมระยะยาวและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น เป็นที่แน่ชัด ว่า CsMPs เป็นพาหะสำคัญของการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีจากอุบัติเหตุนิวเคลียร์"

ศาสตราจารย์ Bernd Grambow ผู้เขียนร่วมจาก Nantes/France กล่าวว่า "ในขณะที่ Pu ที่ปล่อยออกมาจากเครื่องปฏิกรณ์ที่เสียหายนั้นต่ำเมื่อเทียบกับ Cs การสืบสวนให้ข้อมูลที่สำคัญสำหรับการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้อง"

ศาสตราจารย์ร็อด อิวิง แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดเน้นว่า "การศึกษาใช้เทคนิคการวิเคราะห์ที่ไม่ธรรมดาในการอธิบายอนุภาคในระดับอะตอมให้สมบูรณ์ ซึ่งเป็นข้อมูลประเภทหนึ่งที่จำเป็นในการอธิบายการเคลื่อนที่ของพลูโทเนียมในสิ่งแวดล้อม "

Utsunomiya สรุปว่า "ใช้เวลานานในการเผยแพร่ผลลัพธ์เกี่ยวกับอนุภาค Pu จากฟุกุชิมะ ฉันขอเน้นว่านี่เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของความร่วมมือระดับนานาชาติ เป็นเวลาเกือบสิบปีแล้วตั้งแต่เกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ" เขากล่าวต่อ "แต่การวิจัย ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของฟุกุชิมะและการรื้อถอนยังอีกยาวไกลกว่าจะยุติ"บาคาร่า สมัครบาคาร่า