New 2023 Yamaha TY-E 2.0
วิบากไฟฟ้า สนุก...ดุดัน...สไตล์ X-Trial

         หากคุณไมใช่คอรถวิบากสไตล์ไทรอัล อาจจะไม่คุ้นเคยกับรถมอเตอร์ไซค์หน้าตาแบบนี้สักเท่าไหร่ ไม่สามารถใช้ขับขี่ได้ในชีวิตปกติได้จริงๆ เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดนั้นเองเพราะมันคือรถวิบากไต่เขาในแบบกีฬา X-Trial ที่นิยมกันในหมู่คนรักการขับขี่รถ ที่ชอบความท้าทายตื่นเต้นเร้าใจ กับการขับขี่ที่โลดโผน ปีนป่าย และต้องการเอาชนะเส้นทางที่ขวางหน้าแบบไม่ต้องการถนนบนทางตรง ต่อให้เป็นขุนเขา โขดหิน รถสไตล์นี้ผ่านอุปสรรค์ได้อย่างสบายๆ แน่นอนว่ารถสไตล์ X-Trial จึงค่อนข้างที่จะเบา โครงสร้างที่ดูเล็กบอกบาง (แต่จริงๆ แล้วค่อนข้างแข็งแกร่ง) และมีการออกแบบพัฒนาต่อยอดจนเป็นรถในรูปแบบไทรอัล และมีการแข่งขันกันในรถดับโลกเลยทีเดียว

    Yamaha TY-E 2.0 จัดว่าเป็นโมเดลต้นแบบรถมอเตอร์ไซค์ในแนวทางของ Trials สายปีนป่าย ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Yamaha TY-E ที่เปิดตัวในปี 2018 และเคยมาโชว์ตัวพร้อมกับการสาธิตในงาน Motor Expo เมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา โดยตัวรถในเวอร์ชั่น 2.0 นั้นมีการพัฒนาไปอีกขั้นด้วยนวัตกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เน้นเรื่องของประสิทธิภาพและนวัตกรรมของแบตเตอรี่เป็นหลัก แน่นอนว่า เมื่อมีพลังขับเคลื่อนจากระบบไฟฟ้าที่โลกกำลังพุ่งเป้าในเครื่องยนต์แบบนี้ การออบแบบหรือพัฒนาจึงค่อนข้างที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนไปไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

    สำหรับเจ้า Yamaha TY-E 2.0 ที่ได้โฉมตัวออกมานั้น ยังถือได้ว่าอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาพัฒนาต่อยอด  เรียกง่ายๆ ว่าเป็นรถ “ต้นแบบ” นั่นเอง ซึ่งความพิเศษที่แตกต่างจากรถรุ่นก่อนๆ จะเป็นเรื่องของพลังงานไฟฟ้าเพียงเท่านั้น เรียกง่ายๆ ว่า Yamaha TY-E 2.0 ซึ่งคาดว่าจะเป็นรถวิบากไฟฟ้าแบบเต็มระบบ โดยการต่อยอดมาจาก TY-E model ที่เปิดตัวไปในปี 2018 โดย Yamaha TY-E 2.0 ได้ยกเอาจุดเด่นสำคัญในเรื่องโครงสร้างแบบ Monocoque มาเป็นจุดขาย เรียกได้ว่าเป็นโครงสร้างแบบชิ้นเดียว ทำขึ้นจากวัสดุที่มีชื่อว่า Composite Laminates (คอมโพสิตคาร์บอนไฟเบอร์ลามิเนต) โดยมีน้ำหนักที่เบา และมีความแข็งแกร่ง อีกทั้งยังช่วยสร้างสมดุลตัวรถที่ดีขึ้น ทำให้การขับขี่ของนักแข่งสามารถใช้แรงน้อยลง ซึ่งทางยามาฮ่ากล้าเคลมเรื่องน้ำหนักของรถไว้ว่า มันเบากว่าต้นแบบถึง 2.5 เท่า ข้อมูลที่เปิดเผยมาของ Yamaha TY-E 2.0 ในเรื่องน้ำหนัก จะอยู่ที่ 70 กิโลกรัม เพียงเท่านั้น ซึ่งถือว่าเบามากๆ และจะส่งผลต่อการขับขี่ควบคุมที่ง่ายนั้นเอง โดยมีเป้าหมายสำคัญของยามาฮ่าก็คือ การแข่งขัน  X-Tria ที่งาน FIM (Federation Internationale de Motocyclisme) ในปี 2022-2023 และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็น่าจะได้เห็น Yamaha TY-E 2.0 ในงานนี้แน่นอน

    Yamaha TY-E 2.0 อยู่ภายใต้แนวคิดที่ชื่อว่า FUN x EV ซึ่งมุ่งเน้นความสนุกสนานในการขับขี่มากกว่าเครื่องยนต์สันดาป โดยจะดึงเอาศักยภาพของมอเตอร์ไฟฟ้ามาเป็นความโดดเด่น อาทิ แรงบิดที่มหาศาล ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่เร็วแรงกว่าเครื่องยนต์สันดาปนั้นเอง  จุดสำหรับก็คือเรื่องแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักเบา  ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของรถไฟฟ้าก็ว่าได้ สำหรับแบตเตอรี่ โดยแบตเตอรี่ของ Yamaha TY-E 2.0 ได้ถูกพัฒนาให้มีน้ำหนักที่เบา และตัวแบตมีความจุของไฟเพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า
    ในส่วนที่พัฒนาอย่างเห็นได้ชัดก็คือเรื่องของ มอเตอร์ขับกำลังไฟฟ้าและแบตเตอรี่โมดุล ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยมีการใช้ส่วนประกอบของระบบคลัทซ์และมูเล่ ที่ติดตั้งเข้ากับชุดขับกำลังมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ได้การขับขี่ที่นุ่มนวลกว่า การส่งต่อกำลังที่สามารถเรียกแรงบิดได้ดีขึ้น อีกทั้งแบตเตอรี่ยังมีการทำให้สามารถขับขี่ในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องยาวนานขึ้น

    สำหรับการเข้าร่วมแข่งขัน FIM Trial World Championship 2022 นั้น ทางยามาฮ่าได้ส่งทีม Factory เข้าร่วมการแข่งขัน (FIM Trial-E Cup) โดยส่วนหนึ่งเป็นการเพิ่มมิติให้กับการพัฒนาตัวรถ โดยจะได้นักแข่งอย่าง Kenichi Kuroyama ที่เป็นนักทดสอบหลักของโครงการเข้าร่วมการแข่งขันแบบเต็มฤดูกาล ถึงแม้ Yamaha TY-E 2.0 จะดูเป็นรถที่ไม่มีเทคโนโลยีใดๆ สักเท่าไหร่ แต่อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใส่ให้มาใช้งานกับรถ เรียกได้ว่าเป็นของไม่ธรรมดา ราคาไม่ต้องพูดถึงว่าขนาดไหน ไว้รอทาง Yamaha เปิดขายเมื่อไหร่ ค่อยดูมากันว่า Yamaha TY-E 2.0 จะไปจบที่ราคาเท่าไหร่ ?