Yamaha Riding Academy
การเรียนขับขี่ Riding Course ทั้งสองหลักสูตร
Big Bike Basic course และ Big Bike Advance course
เพื่อการขับขี่รถบิ๊กไบค์ที่ถูกต้องและพร้อมทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ การเรียนขับขี่บิ๊กไบค์อย่างถูกต้อง ซึ่งในอนาคตอีกไม่นานนี้ การทำใบอนุญาตขับขี่นั้นจะถูกแยกออกเป็นสองชนิดด้วยกันนั่นก็คือใขขับขี่อนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ทั่วไป และใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ ซึ่งการขอทำใบอนุญาตขับขี่รถบิ๊กไบค์นั้นยังมีหลักเกณฑ์อีกหลายอย่างเพื่อให้เกิดการขับขี่ที่ปลอดภัยต่อผู้ที่ใช้รถยานพาหนะบนท้องถนนสาธารณะ โดยปัจจุบันนี้มีสถาบันต่างๆ ที่ได้รับอนุญาตจากกรมขนส่งทางบกให้เปิดอบรมการเรียนขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ได้และเมื่อเรียนจนครบหลักสูตรตามที่กำหนดแล้วจะสามารถนำใบรับรองนี้ไปยื่นขอทำใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ได้สำหรับค่ายรถจักรยานยนต์ยามฮ่านั้นมีสถาบันการสอนขับขี่รถจักรยานยนต์ให้กับกลุ่มลูกค้าที่ซื้อและขับขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าได้เข้ารับการอบรม เรียนรู้ทักษะการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน โดยทีมครูฝึกทุกคนนั้นจะได้รับการถ่ายทอดความรู้ความสามารถจากยามาฮ่าที่ญี่ปุ่นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของระเบียบวินัย และการเคารพกฎหมายจราจรพื้นฐานแรกของการเรียนขับขี่รถบิ๊กไบค์คือ Big Bike Basic course (8 ชั่วโมงเรียน) ในช่วงเช้านั้นหลังจากที่ทุกคนได้เข้าพื้นที่มายังด้านในของ YRA นั้นผู้เข้ารับการอบรมเมื่อเข้ามาในพื้นที่ส่วนต้อนรับจะลงทะเบียนและจะได้รับเสื้อยืดคอกลมแขนยาวสีฟ้าขาวที่หน้าอกนั้นจะมีสัญลักษณ์ YRA หากใส่เสื้อตัวนี้ขี่รถไปที่ไหนก็จะเป็นที่รู้กันว่าได้ผ่านการเรียนหลักสูตรการเรียนขับขี่รถจักรยานยนต์ของยามาฮ่ามาแล้ว หลังจากนั้นทุกคนจะได้รับกุญแจสำหรับล็อคเกอร์เพื่อเก็บของมีค่าได้อย่างอุ่นใจ และยังมีห้องอุปกรณ์ให้ยืมสวมใส่ ไม่ว่าจะเป็นหมวกกันน็อค ถุงมือ สนับศอก และสนับเข่าให้ยืมด้วยหากผู้ที่เข้ารับการอบรมนั้นไม่มีอุปกรณ์ติดตัวมา และที่สำคัญคือทุกคนจะได้รับเสื้อกั้กติดเบอร์ที่ต้องสวมใส่กันทุกคนเพื่อให้ครูฝึกนั้นสามารถสังเกตการขับขี่ขแงแต่ละคนผ่านการจำเบอร์ที่เสื้อได้ง่าย โดยหากมีการปรับจุดแก้ไขครูฝึกจะได้จำได้ไม่ผิดคนนั่นเองในช่วงเช้านั้นชั่วโมงแรกของการเรียนในรูปแบบเบสิคนั้น ทุกคนที่มาได้เรียนในเรื่องของทฤษฎีกันก่อนเล็กน้อยเพื่อปรับพื้นฐานความเข้าใจในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน รวมไปถึงขั้นตอนการรับรู้ของร่างกายตั้งแต่ดวงตาที่มองเห็นรับรู้ ส่งข้อมูลไปที่สมองเพื่อประมวลผลก่อนที่จะออกคำสั่งมายังที่มือเพื่อให้เบรก หรือบิดคันเร่ง โดยขั้นตอนเหล่านี้จะใช้เวลาพอสมควร ซึ่งผู้ขับขี่นั้นควรใช้ความเร็วไม่เกินกำหนดเพื่อความปลอดภัยในการใช้ระยะเบรก ยิ่งในรถบิ๊กไบค์ที่มีความเร็วสูงกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไปนั้น ก็ควรเผื่อระยะเบรกให้มากขึ้นตามความเร็วที่ใช้งานอีกด้วย และการเลือกวางตำแหน่งมือนั้นไม่ควรเอาปลายนิ้วใดวางพาดไว้ที่ก้านเบรกและก้านคลัทช์ เพื่อสมองประมวลผลสั่งการได้รวดเร็วได้เพียงหนึ่งทางเลือกเท่านั้นแต่หากมีการวางพาดปลายนิ้วไว้ที่ก้านคลัทช์หรือก้านเบรกด้วยนั้นจะทำให้สมองเกิดความสับสนและสั่งการได้ช้าลง หรืออาจเกิดการผิดพลาดได้ตามความเคยชิน หลังจากที่เรียนรู้ในเรื่องของทฤษฎีกันแล้ว ก็มาถึงในช่วงภาคปฏิบัติกันโดยเมื่อลงมาที่สนามขับขี่นั้นทีมครูฝึกจะสอนเกี่ยวกับการวางตำแหน่งท่านั่งที่ถูกต้องมีความกระชับ ปลายเท้าทั้งซ้ายและขวานั้นวางขนานไปกับตัวรถในตำแหน่งอยู่บนแป้นเกียร์และแป้นเบรกตลอดเวลา เพื่อผู้ขับขี่จะสามารถกดแป้นเกียร์และแป้นเบรกได้อย่างรวดเร็วและจะมีความนุ่มนวลกว่าเมื่อเทียบกับการวางตำแหน่งปลายเท้าไว้ตรงจุดอื่น ซึ่งหากผู้ขับขี่นั้นมีอาการเมื่อยที่ปลายเท้านั้นก็สามารถปรับตำแหน่งแป้นเกียร์และแป้นเบรกให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมไม่สูงมากเกินไปจนสร้างความเมื่อยล้าให้กับปลายเท้า
หลังจากเรียนรู้เรื่องท่านั่ง มุมมองสายตา การใช้คันเร่ง การปิดคันเร่ง การใช้เบรกหน้าและหลัง และการลดเกียร์ลงแบบครึ่งคลัทช์ เมื่อทำตามจังหวะตามนี้จะให้การชะลอความเร็วก่อนถึงทางเลี้ยวโค้งนั้นสามารถควบคุมรถได้อย่างปลอดภัย และเมื่ออยู่ในโค้งนั้นให้คลอคันเร่งไว้ โดยใช้สายตาย้ายจุดมองระยะไกลออกไปจนเมื่อเห็นทางออกโค้งที่เป็นทางตรงจึงสามารถเร่งเครื่องยนต์ต่อไปได้โดยที่ไม่เสียจังหวะ นอกจากนี้ในหลักสูตรเบสิคนั้น ครูฝึกยังสอนให้รู้จักการใช้เบรกหลังในการเลี้ยวโค้งแคบที่ความเร็วต่ำ ซึ่งเบรกหลังนั้นจะช่วยดึงรถให้มีความนิ่งพร้อมด้วยมุมมองสายตาที่มองเปิดกว้างเพื่อหาจุดเลี้ยว
ต่อไป การขับขี่แบบสลาลอมก็เช่นเดียวกัน โดยมีความเร็วขึ้นมากว่าเดิม ผู้ขับขี่นั้นจะต้องใช้คันเร่งให้ตรงจังหวะในกรวยต่อไปเพื่อให้ตัวรถนั้นสามารถพลิกเลี้ยวไปมาได้อย่างต่อเนื่องBig Bike Advance course (8 ชั่วโมงเรียน) หลังจากที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะมีการการอบรมในช่วงเช้าและแนะนำตัวทีมครูฝึกเช่นเดียวกัน โดยในห้องอบรมครูฝึกจะทบทวนความรู้ความเข้าใจในการขับขี่รถประเภทบิ๊กไบค์ก่อนเพื่อให้ทุกคนนั้นมีความเข้าใจ และใช้งานรถได้อย่างเต็มประสิทธิภาพซึ่งในการเรียนหลักสูตรแอดวานซ์นั้นจะเน้นในเรื่องของการขับขี่มากขึ้น โดยหลังจากนั้นจึงลงมาที่สนามเรียนขับขี่ YRA โดยทางครูฝึกจะทบทวนในเรื่องของท่านั่งที่เหมาะสม มุมมองสายตา ตำแหน่งการวางเท้า การใช้มือกุมแฮนด์ครบทุกนิ้วไม่ใช้นิ้วใดพาดไปที่ก้านเบรกและก้านคลัทช์ เพื่อให้การจับแฮนด์นั้นมีความมั่นคงมากที่สุดและยังทำให้สมองตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เกิดความลังเลหรือเกดิความผิดพลาดในการตัดสินใจ หลังจากนั้นครูฝึกจะเริ่มสาธิตการขับขี่การเลี้ยวมุมแคบโดยการลดเกียร์ลงแบบครึ่งคลัทช์ (กำคลัทช์เพียบครึ่งเดียว) พร้อมกับการการลดเกียร์ลงทีละ1 เกียร์เพื่อให้รอบเครื่องยนต์นั้นมีความสัมพันธ์กับความเร็วหากลดเกียร์เร็วเกินไปจะส่งผลให้เกิดแรงเอนจิ้นเบรกที่ล้อหลังสูงจนมีอาการท้านสไลด์ได้ส่วนทางด้านการตัดสินใจนั้นเมื่อออกโค้งที่ความเร็วย่านเกียร์ 3 นั้นจะมีครูฝึกยืนดักอยู่ เพื่อเห็นครูฝึกในระยะสายตาจะยกธงสีขึ้นในระยะที่ผู้ขับขี่นั้นต้องตัดสินใจฉับพลันโดยไม่รู้ล่วงหน้าอย่างเช่นเมื่อเห็นครูฝึกยกธงสีเขียวให้ทำการเลี้ยวผ่านไปทางด้านซ้าย เมื่อครูฝึกยกธงสีเหลืองให้เลี้ยวผ่านไปทางด้านขวามือ แต่หากเมื่อครูฝึกยกธงสีแดงให้ทำการหยุดรถ ซึ่งเป็นการฝึกใช้สมาธิและการตัดสินใจพร้อมกับสมองที่ต้องตัดสินใจสั่งการลงมาที่ร่างกายอย่างรวดเร็วนอกจากนี้ในการเรียนขับขี่ช่วงบ่ายนั้นจะเริ่มใช้ความเร็วสูงขึ้น โดยให้ผู้ขับขี่ฝึกความเคยชินการลดความเร็วเป็นขั้นนตอนเพื่อให้ร่างกายทำงานอัตโนมัติตามจังหวะเป็นขึ้นตอนอย่างการ ปิดคันเร่ง เบรกหน้าและหลัง การลดเกียร์แบบครึ่งคลัทช์+เบรกหน้าหลังยังทำงานอยู่ การปล่อยเบรกก่อนถึงโค้งและคลอคันเร่งเพื่อเข้าโค้ง มองทางออกโค้ง และจบด้วยการค่อยๆ เปิดคันเร่งทีละนิดอย่างละเอียดเมื่อเห็นทางออกจากโค้ง หลังจากผ่านจุดนี้ไปทุกคนจะขับขี่ผ่านไปยังจุดต่อไปคือ การขับขี่บนทางขรุขระลูกระนาดโดยจะต้องทรงตัวท่ายืนบนรถ หรือยกก้นขึ้นให้ลอยออกจากเบาะนั่งเพื่อป้องกันรถดีดตัวผู้ขับขี่ เมื่อผ่านจุดนี้ไปจะต้องเข้าสู่การฝึกการขับขี่บนทางแคบรูปตัวเอสซึ่งครูฝึกจะนำกรวยไพลอนแบบสูงมาวางคู่ขนานไปกับทางแคบตัวเอสเพื่อให้ฝึกจำลองการทรงตัวโดยที่ยอดปลายของไพลอนนั้นจะมีความสูงใกล้เคียงกับกระจกของรถยนต์ เพื่อฝึกให้ทรงตัวในทางแคบและควบคุมรถไม่ให้โดยสิ่งกีดขวางทางด้านข้างหลังจากที่ทุกคนได้ลองขับขี่ทีละรอบไปตามจุดต่างๆ โดยมีทีมครูฝึกคอยสังเกตผู้เข้าอบรมทุกคันอย่างละเอียด หากมีคนไหนที่ยังต้องปรับแก้ครูฝึกจะเรียกและปรับแก้ทีละคนในแต่ละจุดจนสามารถขับขี่ได้อย่างถูกต้อง โดยช่วงท้ายของการเรียนนั้นครูฝึกจะให้ทุกคนได้ทอลองขับขี่แบบเต็มรูทโดยมีชื่อว่า “สัมมารี่ รัน” จะแบ่งกลุ่มแล้วให้ทุกคนนั้นขับขี่ไปบนสนามฝึกตามเส้นทางไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องหยุดรถ รูปแบบสนามสามารถใช้ความเร็วได้พอประมาณ และบางจุดเป็นทางโค้งกลับรถที่ต้องใช้ความเร็วต่ำ ซึ่งในแต่ละจุดนั้นทุกคนจะได้นำในสิ่งที่ได้เรียนรู้จากทีมครูฝึก Yamaha YRA มาใช้ตามรูปแบบสถานการณ์ต่างๆ
ทีมงานไซเคิลโรดขอขอบคุณบริษัทไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด Yamaha YRA ทีมครูฝึก ทีมพีอาร์ยามาฮ่า และพี่ๆ เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เปิดโอกาสให้ได้เข้ารับการอบรมเรียนรู้การขับขี่รถบิ๊กไบค์ได้อย่างถูกต้องเพื่อนำไปใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน
สำหรับการเรียนขับขี่รถบิ๊กไบค์ทั้งในหลักสูตรเบสิคที่ชื่อว่า Big Bike Basic course และหลักสูตรแอดวานซ์ที่ชื่อ Big Bike Advance course โดยเมื่อเข้ารับการอบรมเรียนขับขี่ครบทั้งสองหลักสูตรนี้ ผู้เรียนสามารถเก็บใบประกาศนียบัตรของทั้งสองหลักสูตรเพื่อเตรียมสำหรับการยื่นขอทำใบอนุญาตขับขี่รถบิ๊กไบค์ได้เมื่อกรมการขนส่งทางบกเปิดรับ สำหรับผู้ที่สนใจอยากเรียนขับขี่ที่ยามาฮ่า YRA นั้นมีหลักสูตรตั้งแต่รถจักรยานยนต์ทั่วไปจนไปถึงรถบิ๊กไบค์ และยังมีการเรียนเพื่อขอทำใบอนุญาตขับขี่อีกด้วยแบบครบวงจร
ติดตามและสอบถามได้ที่ Yamaha Riding Academy บางนาตราดกม. 21
เบอร์ 02 740 8001 e-Mail yrapromote@gmail.com
เวปไซต์ yamaha-motor.co.th/yrathailand
เฟสบุ๊คแฟนเพจ https://www.facebook.com/YamahaRidingAcademyThailand