เที่ยวบางเสร่...วันเบาๆ กับยามาฮ่าฟินน์
สำหรับคนที่อยากขี่รถเที่ยวแบบสบาย ไม่ไกลมากนัก ที่จังหวัดชลบุรีนั้นก็มีแหล่งท่องเที่ยว ให้ได้ไปพักผ่อนในวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือจะพักกันแบบค้างคืนก็ได้
บางเสร่นั้นเป็นอีกหนึ่งตัวที่เลือกเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการพักผ่อนแบบสงบ ด้วยสิ่งแวดล้อมที่น้ำทะเลสงบ แถมยังอยู่ใกล้ชุมชนชาวบ้านมากกว่าแหล่งบันเทิง ทำให้เป็นที่ถูกใจคนที่ต้องการพักผ่อนกับแบบจริง ๆ จัง ๆ นอกจากนี้ตามแหล่งที่พักนั้นจะนิยมสร้างสะพานยื่นออกไปที่ทะเล เพื่อให้เหาะที่ที่นั่งดื่มรับลมทะเล แล้วยังนั่งตกปลา ตกหมึกยามค่ำคืนได้อีกด้วย
รถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟินน์จึงเป็นคำตอบของการเดินทางในทริปนี้ เพราะด้วยระยะทางเพียงระยะทางเพียงแค่หนึ่งร้อยกว่ากิโลนั้นก็ทำให้สนุกได้ง่าย ๆ ไปกับเพื่อนที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน ซึ่งระหว่างทางนั้นจะผ่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง อ่างศิลาที่ขึ้นชื่อในเรื่องของหินที่นำมาผลิตเป็นครกและสาก รวมไปถึงเขาสามมุกที่มีตำนานในเรื่องของความรักของชายหญิงคู่หนึ่ง และชายหาดบางแสน ทะเลที่ใกล้กรุงเทพมากที่สุด นอจากนี้ยังจุดซื้อของฝากอย่างสะพานปลาที่มีแต่ของทะเลสด ๆ จากเรือประมงทุกวัน และยังมีตลาดหนองมนที่ใคร ๆ ก็ต้องซื้อขนมจากเป็นของฝากติดไม้ติดมือทุกครั้งที่ได้มาเที่ยวที่ชลบุรี
ทริปนี้ทีมงานไซเคิลโรดและพี่ๆ มารวมตัวกันที่ศูนย์ YRA บางนา-ตราด ที่เป็นจุดนัดพบและออกเดินทางในครั้งนี้ และพวกเราจะค้างคืนกันที่บางเสร่หนึ่งคืน เพราะด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนักและไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วสูงเพื่อทำเวลาแต่อย่างใด ทริปนี้จึงเป็นการขับขี่แบบชิลด์ๆ สบายๆ กินลมชมชายทะเลไปเรื่อยเปื่อยเมื่อได้เวลาตามกำหนดการพวกเราทั้งหมดจึงออกเดินทาง ด้วยยามาฮ่าฟินน์ที่มีการติดตั้งระบบติดเครื่องยนต์ด้วยระบบไฟฟ้า จึงทำให้มีความสะดวกสบายมาก เครื่องยนต์ติดขึ้นอย่างเรียบง่าย เสียงเครื่องยนต์ที่แผ่วเบาและนุ่มนวลช่วยเสริมให้ความมั่นใจว่าการขับขี่รถท่องเที่ยวครั้งนี้จะเป็นไปอย่างราบรื่นไม่ส่งเสียงดังกวนนักท่องเที่ยวคนอื่นที่กำลังพักผ่อนอยู่ท่ามกลางความอบอุ่นของทะเลและหาดทราย
แน่นอนว่าการขี่รถเที่ยวนั้นพวกเราจึงใช้ความเร็วกันไม่มากนัก เพราะต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ของวิว ทิวทัศทั้งสองข้างทางซึ่งก็แวะเที่ยวกันไปเรื่อยเปื่อย ทั้งร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนสะพานเลียบชายทะเล บอกเลยว่าวิวที่นี่สวยมาก และขึ้นชื่อในเรื่องของจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะชอบมานั่งปูเสื่อ กางเก้าอี้ นั่งพักผ่อนกันริมทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย โดยระหว่างทางก่อนถึงอ่างศิลาพวกเราทั้งหมดแวะร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล “ลำลำลับแล” ที่จัดเอาของทะเลสดๆ อย่างปลาหมึก กุ้ง ไซต์ขนาดใหญ่เต็มคำมาปรุงให้เข้ากับเมนูก๋วยเตี๋ยวจนมีลูกค้าประจำแน่นร้านในช่วงเที่ยงของทุกวัน หลังจากอิ่มท้องแล้วจึงออกเดินทางไปต่อ และแน่นอนว่ายามาฮ่าฟินน์ออกแบบช่องคอนโซลหน้าทางด้านซ้ายมือให้สามารถใส่ขวดน้ำหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องการหยิบใช้ได้ทันทีอย่างโทรศัพท์สมาร์ทโฟนให้เวลาที่ต้องการหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปกับวิวทะเลก็ไม่ต้องเสียเวลาไปล้วงหาจากกระเป๋ากางเกง และการขี่รถเที่ยวแบบนี้จะต้องหยุดรถบ่อยทำให้ต้องใช้เบรกอยู่เป็นประจำตลอดทางที่มีจุดชมวิวและถ่ายรูปและข้อดีของยามาฮ่าฟินน์ก็คือระบบเบรก UBS เมื่อมีการเบรกเท้าที่ล้อหลังระบบจะสั่งให้ล้อหน้าเบรกด้วยโดยอัตโนมัติเพื่อให้ประสิทธิภาพการหยุดรถนั้นทำได้ดีที่สุด เพราะในบางครั้งผู้ขับขี่อาจมีความเคยชินกับการใช้เบรกที่ล้อหลังมากกว่าล้อหน้าและมีการทดสอบแล้วว่าประสิทธิภาพการหยุดรถที่ดีที่สุดนั้นคือจะต้องทำการเบรกทั้งสองล้อ รถยามาฮ่าฟินน์จึงมีการติดตั้งระบบ UBS มาให้เพื่อความปลอดภัยไม่ว่าสมาชิกในบ้านคนไหนจะนำรถไปใช้งานก็สามารถเบรกหยุดรถได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
หลังจากเลียบชายทะเลหาดบางแสนจนสุดทางแล้วจึงวกออกมายังถนนสุขุมวิทแล้วมุ่งหน้าไปต่อยังเมืองพัทยา ซึ่งแม้ว่าช่วงนี้จะมีแต่นักท่องเที่ยวในประเทศ แต่ที่เมืองพัทยานี้ก็ยังมีคนไทยออกมาเที่ยวในวันหยุดกันอย่างปกติภายใต้การมาตรการป้องกันต่างๆ ที่ทุกคนรู้กันดีและปฎิบัติตามอย่างไม่ละเลย การเดินทางมาถึงตำบลบางเสร่ในช่วงบ่ายแก่ๆ บรรยากาศกำลังดีแสงแดดเริ่มอ่อนกำลัง พวกเราทั้งหมดขี่รถมาถึงที่พัก “ต้นน้ำรีสอร์ท” เข้าเช็คอินท์จองห้องเลือกเตียงนอนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “เมื่อมาถึงทะเลมันก็ต้องให้ถึงทะเล” อย่างที่เขาว่าไว้ไม่พูดพล่ามทำเพลงเปลี่ยนเสื้อผ้ากระโจนลงน้ำทะเลที่ใสปิ้งจนเห็นฝูงลูกปลาแหวกว่ายเป็นกลุ่มใหญ่ มันช่างเป็นวันพักผ่อนที่เพอร์เฟ็คจริงๆ