Yamaha Tracer 9 GT+ New Yamaha Tracer 9 GT+ เทคโนโลยีล่าสุด ขึ้นแท่นเรือธงในกลุ่มรถ สปอร์ตทัวร์ริ่ง
New Yamaha Tracer 9 GT+ รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตทัวร์ริ่งแอ้ดเวนเจอร์รุ่นใหม่ พร้อมการอัพเกรดด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีระบบช่วยเหลือการขับขี่ปรับความเร็วคงที่แบบปรับได้ (ACC) และการออกแบบเบาะนั่งใหม่ปรับปรุงด้านความหนาแน่นของโฟมช่วยรองรับได้ดีขึ้น เพื่อการขับขี่ในระยะทางไกลที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ผสานด้วยเครื่องยนต์ขุมกำลัง 3 สูบ ขนาด 890 ซีซี และจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ 2024 Yamaha Tracer 9 GT+ กลายเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เริ่มต้นด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้และระบบเบรก Unified Brake ที่เชื่อมโยงกับเรดาร์ พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนแบบกึ่งแอกทีฟ โหมดการขี่ในตัว ระบบช่วยเหลือผู้ขี่ที่ไวต่อการเอน และการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนแบบใหม่ ระดับความซับซ้อนที่ไม่มีใครเทียบได้ในระดับเดียวกัน เริ่มจากระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน (ACC) และเรดาร์ที่สามารถวัดระยะห่างจากรถคันข้างหน้าได้อย่างแม่นยำ เปิดใช้งานระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับได้ (ACC) และระบบเฉลี่ยน้ำหนักเบรกระหว่างหน้าและหลัง หรือ Unified Brake Systems (UBS) ที่ทำงานร่วมกับเรดาร์ เมื่อเปิดใช้งานระบบจะควบคุมความเร็ว ชะลอความเร็ว และการเร่งความเร็วโดยอัตโนมัติ เพื่อให้สอดคล้องกับความเร็วของรถคันหน้า รักษาระยะห่างตามหลังให้คงที่ตามการตั้งค่าล่วงหน้าที่ปรับได้ 4 ระดับ มอบความสะดวกสบาย ลดความเมื่อยล้า และความมั่นใจในการขับขี่บนท้องถนนในระดับใหม่ นอกจากนี้ยังมี IMU หกแกนขั้นสูง ทำหน้าที่ในการส่งข้อมูลไปยังหน่วยควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) เพื่อเปิดใช้งานระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS), ระบบควบคุมการสไลด์ (SCS) และระบบควบคุมล้อหน้ายก (LIF) ระบบควบคุมเบรกที่ควบคุมโดยชุดควบคุมไฮดรอลิก ซึ่งจะปรับแรงดันเบรกหน้า และหลังตามข้อมูลที่ได้จาก IMU เช่นเดียวกับเซ็นเซอร์ความเร็วล้อหน้าและหลัง ระบบทั้งหมดนี้ ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับการดึงศักยภาพของรถออกมาดีที่สุด แต่ละระบบยังสามารถเปิดหรือปิดได้ และ TCS, SCS และ LIF สามารถปรับระดับการแทรกแซงได้ตามความต้องการ ด้านระบบกันสะเทือน ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ KYB® Actimatic Damper System® (KADS) เจนเนอเรชั่นใหม่ ให้สมรรถนะแบบสปอร์ต พร้อมการขับขี่ที่สบายมากขึ้น การใช้ข้อมูลจาก IMU หกแกนที่เป็นตัวตรวจสอบไดนามิกของรถจากเซ็นเซอร์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สามารถปรับชุดควบคุมช่วงล่าง (SCU) ให้มีแรงหน่วงเพื่อให้เหมาะกับสภาพการขับขี่บนท้องถนน ระบบกันสะเทือนแบบกึ่งแอกทีฟนี้ยังทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผัน และระบบเฉลี่ยน้ำหนักเบรกระหว่างหน้าและหลัง เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น ตัวรถยังติดตั้งหน้าจอแสดงผล TFT Full-Color ขนาด 7 นิ้วขนาดใหญ่สามารถอ่านข้อมูลได้ง่าย แสดงข้อมูลที่จำเป็นต่อการขับขี่ได้อย่างครบถ้วน ทั้งความเร็ว รอบเครื่องยนต์ นาฬิกา ตำแหน่งเกียร์ รวมไปถึงสามารถตั้งค่าโหมดของการขับขี่ที่ได้แก่ Sport/Street/Rain เพื่อควบคุมการใช้งานตามพื้นที่การขับขี่ได้อย่างเหมาะสม เพิ่มเติมด้วยช่องเสียบ USB-A สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก รวมไปถึงการเชื่อมต่อผ่านแอป MyRide ของ Yamaha ผู้ขับขี่สามารถเลือกเลย์เอาต์หน้าจอที่แตกต่างกันได้ 3 แบบ ซึ่งแต่ละแบบมีสไตล์ที่โดดเด่นแต่กต่างกันเพื่อให้ตรงกับความชอบส่วนบุคคลและสภาพการขับขี่ นอกเหนือจากเทคโนโลยีขั้นสูงแล้ว ขุมพลังของตัวรถยังคงใช้เครื่องยนต์ CP3® ครอสเพลน 3 ลูกสูบ ขนาด 890 ซีซี ที่มีชื่อเสียงระดับโลก สามารถให้แรงบิดและพละกำลังได้อย่างเร้าใจ ด้วยพลัง 119 แรงม้า ที่ 10,000 รอบต่อนาที แรงบิด 93 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที ตัวรถใช้เฟรมอะลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Yamaha ผสานกับอินไลน์สามสูบที่ทรงพลัง ให้ความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความแข็งแกร่ง และน้ำหนักเบา ทำให้มั่นใจได้ถึงการควบคุมที่ว่องไวและมั่นคง แถมยังมีล้อแม็กที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา ช่วยลดน้ำหนัก เพิ่มการควบคุมให้คล่องตัวยิ่งขึ้น |