Ducati DesertX Rally 2024 Ducati DesertX Rally จะลุยจะเที่ยว คันเดียวจบเลย
มาแล้วแอ็ดเวนเจอร์ไบค์ไซส์กลางจาก Ducati ครั้งนี้อาจจะไม่ใช่โมเดลใหม่แบบใหม่หมด แต่ก็เป็นโมเดลใหม่ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งนั่นก็คือเจ้า DesertX Rally ที่ปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อที่จะให้ตอบโจทย์การขับขี่ทั้งในแบบออฟโรดได้มากยิ่งขึ้น
2024 Ducati DesertX Rally ถูกนำเสนออย่างเป็นทางการในงาน Ducati World Première เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2023 ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่สื่อต่างประเทศได้คาดการณ์อยู่แล้ว โดยการมาของรุ่น Rally จะช่วยเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับผู้ขับขี่ และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะเป็นการเน้นให้รถมีสมรรถนะในการขับขี่ Enduro ที่ดีขึ้น
เครื่องยนต์ยังคงเป็นเครื่องเดิม ที่ชื่อว่า Testastretta 11° สองสูบวี 937 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังแรงสูงสุด 110 แรงม้าที่ 9,250 รอบและแรงบิดสูงสุดที่ 92 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบ ใช้น้ำมันจากถังน้ำมันขนาด 21 ลิตร
มาถึงเรื่องของช่วงล่างที่ปรับปรุงเพิ่มเติมให้พร้อมเข้าปะทะกับอุปสรรคให้มากยิ่งขึ้นไปอีก โดยยึดหลักออกแบบให้มีคาแรคเตอร์แบบเดียวกันกับรถเอ็นดูโร่หรือรถแข่งครอสคันทรีของนักแข่งมืออาชีพเลยทีเดียว แชสซีหลักจะเป็นเฟรมถักเหล็กกล้าและสวิงอาร์มคู่อลูมิเนียม มีระบบกันสะเทือนจากทาง KYB ด้านหน้าจะเป็นโช้คหัวกลับขนาด 48 ม.ม. ระยะยุบ 250 ม.ม. ปรับแต่งได้ทั้งคอมเพรสชันและรีบาวด์ มีการเคลือบแกนสไลด์ด้วยเทคโนโลยี Kashima Coating และกระบอกโช้คเคลือบ DLC ซึ่งจะช่วยเรื่องของความลื่นไหลและความทนทาน ขณะที่ด้านหลังจะเป็นโช้คเดี่ยวปรับพรีโหลด รีบาวด์ และคอมเพรสชันทั้งแบบไฮสปีดและโลว์สปีดได้ นอกจากนี้ตัวรถยังติดตั้งกันสะบัด Ohlins มาให้อีกด้วย
ส่วนของระบบเบรกจะเป็นดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 320 ม.ม.กับคาลิเปอร์เบรก Brembo แบบโมโนบล็อกเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ ด้านหลังจะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 265 ม.ม.กับคาลิเปอร์เบรก Brembo 2 ลูกสูบ ขณะที่ล้อจะเป็นล้อ Takasago Excel แบบใช้ยางใน และใช้ซี่ลวดคาร์บอนสตีล พร้อมยาง Pirelli Scorpion Rally STR ขนาด 90/90-21 และ 150/70 R18
ในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้นจัดเต็มตามแบบฉบับของทางค่าย ไม่ว่าจะเป็น โหมดการขับขี่ 6 โหมด ได้แก่ Sport, Touring, Urban, Wet, Enduro และ Rally โหมดควบคุมกำลังเครื่องยนต์ 4 โหมด ระบบเบรก Cornering ABS จาก Bosch ปรับได้ 3 ระดับ ระบบไฟเบรกฉุกเฉิน ระบบแทร็คชันคอนโทรล 8 ระดับ ระบบควบคุมการลอยตัวของล้อ ระบบควบคุมเอ็นจิ้นเบรก ระบบครูซคอนโทรล ระบบควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง ระบบไฟ LED เต็มระบบ หน้าจอสี TFT 5 นิ้วเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานระบบนำทางแบบเทิร์นบายเทิร์นได้
เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มพร้อมลุยกันยาวๆ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในยุโรปตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป
|