Thailand Bike of the Year 2024 

ค่ายผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์แบรนด์ชั้นนำเข้าร่วมประกวดอย่างยิ่งใหญ่

      จัดเป็นประจำทุกปีกับการเฟ้นหารถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี Thailand Bike of the year สำหรับในปี 2024 โดยครั้งนี้ยังคงเลือกใช้ สนามพีระคาร์ท พัทยา ทางบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)โดยนิตยสารมอเตอร์ไซค์ ในฐานะผู้ดำเนินการจัดการประกวด ซึ่งสนามพีระคาร์ทนี้มีความเหมาะสมในการทดลอง ทดสอบ การขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะมีการวางจุดทดสอบต่างๆ เพื่อให้มีการรีดเค้นสมมรรถนะออกได้ได้มากที่สุด

     โดยในปีนี้ คุณอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานฯ กล่าวต้อนรับเปิดการทดสอบ ซึ่งมีวัตถุประสงค์คัดเลือกจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีในแต่ละประเภทเพื่อมอบเป็นกำลังใจให้กับบริษัทผู้ผลิต ผู้นำเข้ารถจักรยานยนต์ และยังเป็นการส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศให้มีการพัฒนา และเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป 

   ครั้งนี้นั้นมีค่ายรถจักรยานยนต์ชั้นนำระดับแนวหน้า ส่งรถเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมาก  ร่วมทำการประกวดมากกว่า 14 แบรนด์ รวมจำนวนรถทั้งหมดที่มากถึง 90 คันด้วยกัน  โดยมีสื่อมวลชนในวงการรถจักรยานยนต์เข้าร่วมทดสอบและสังเกตการณ์ เพื่อหาข้อมูลนำมาตัดสินว่าใครจะเป็นสุดยอดรถจักรยานยนต์แห่งปี 2024 การคัดเลือกรถที่มากถึง 90 คันนั้นต้องใช้เวลาตลอดทั้งสองวัน โดยวันแรกของการเฟ้นหารถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมนั้นจะเน้นหนักไปทางรถบิ๊กไบค์กันก่อนเลย โดยเริ่มตั้งแต่รุ่นเล็กจนไปถึงรุ่นใหญ่โดยแต่ละคัน ซึ่งรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่ส่งเข้าประกวดแต่ละยี่ห้อนั้นก็มีข้อดี ข้อเด่นที่แตกต่างกัน และยังมีฟังก์ชั่นการปรับใช้งานที่ไม่เหมือนกัน บางคันก็มีรูปแบบการปรับโหมดที่ละเอียด บางรุ่นก็มีโหมดการปรับมาให้แบบสำเร็จรูป รวมไปถึงพละกำลังของเครื่องยนต์ที่ตอบสนองการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นทั้งในการออกตัว การใช้ความเร็วในทางตรงและทางโค้ง รวมไปถึงช่วงล่างกันสะเทือนแบบตัวท็อปที่ติดตั้งในรุ่นใหญ่อย่างในรถซูปเปอร์สปอร์ตที่เรียกได้ว่า เครื่องยนต์แรงและระบบเบรกก็ดีเยี่ยม ซึ่งจะส่งผลให้การขับขี่ใช้รถได้อย่างปลอดภัยทุกย่านความเร็ว

     และที่สำคัญในปีนี้มีการส่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเข้าร่วมประกวดด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่า ในแต่ละคันนั้นก็มีทั้งฟังก์ชั่นการควบคุมแรงบิดของมอเตอร์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่นั้นรู้สึกว่าขี่ง่ายมากขึ้น  ซึ่งประสิทธิภาพแต่ละคันนั้นก็ไม่ธรรมดานับว่าเป็นความก้าวหน้าในวงการรถจักรยานยนต์ที่เริ่มมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อให้ผู้ขับขี่นั้นสามารถเลือกรถที่มีความเหมาะสมนำมาใช้งานได้อย่างลงตัวส่วนวันที่สองของการทดสอบของกลุ่มรถจักรยานยนต์ทั่วไปนั้นต้องบอกว่าสนุกไม่แพ้กัน เพราะรถมอเตอร์ไซค์แต่ละแบรนด์ก็มีเอกลักษณ์ตามสไตล์เป็นของตัวเอง รวมไปถึงพละกำลังของเครื่องยนต์ เทคโนโลยีของเครื่องยนต์ และประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนและระบบเบรกนั้นก็ทำออกมาได้ดี 

โดยการทดสอบทั้งสองวันนั้นจะมีรูปแบบของสนามที่นักทดสอบจะต้องขี่ไปตามไลน์สนามแข่งพีระคาร์ท เซอร์กิต ซึ่งปีนี้จะมีรูปแบบที่แตกต่างจากปีก่อน โดยจะทำการขับขี่ย้อนไลน์ และในช่วงโค้งก้นหอยนั้นจะมีการวางไลน์ใหม่ เพื่อให้ใช้ความเร็วได้มากขึ้นอีกด้วย แน่นอนว่านักทดสอบแต่ละท่านนั้นก็จะได้ทดสอบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 90 คัน บนสนามที่คุ้นเคยแต่ขับขี่ไลน์ใหม่ที่เปลี่ยนไปจากเดิม โดยระหว่างขับขี่นั้นจะมีการแบ่งจุดทดสอบย่อยออกเป็นสถานีต่างๆ เพื่อเค้นสมรรถนะต่างๆ ของตัวรถให้มีความใกล้เคียงกับการใช้งานจริงทั่วไปในชีวิตประจำวัน

การเลี้ยวกลับรถแบบยูเทิร์น รถที่มีบาลานซ์ดีนั้นจะช่วยให้การเลี้ยวโค้งนั้นสามารถใช้ความเร็วได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ความเร็วนั้นไม่ลดลง ซึ่งในแต่ละรุ่นนั้นก็จะแสดงประสิทธิภาพออกมาได้แตกต่างกัน โดยความสูงเบาะของรถนั้นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้การเลี้ยวกลับรถนั้นมีความง่ายขนาดไหนรวมไปถึงมุมเลี้ยวของแต่ละคันที่ออกแบบมาไม่เท่ากัน หากมีมุมเลี้ยวแคบก็จะสามารถกลับรถได้ง่ายกว่าเช่นเดียวกัน

การขี่แบบสลาลอมเป็นการทดสอบมาตรฐาน สถานีทดสอบนี้จะเป็นการวางกรวยส้มแบบเยื้องไปสลับไปมา เพื่อทดสอบการเลี้ยวรถแบบมุมแคบที่มีความต่อเนื่องและยังได้ลองความไวของคันเร่งอีกด้วยว่าจะมีการตอบสนองที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็อาจจะส่งผลทำให้ความต่อเนื่องในการขับขี่ช้าลง นอกจากคณะกรรมการทดสอบที่มีทักษะแล้ว ตัวรถนั้นก็มีความสำคัญเป็นอย่างมากทั้งเรื่องมุมองศาของคอรถที่ออกแบบมาเพื่อให้การเลี้ยวต่อเนื่องทำได้อย่างสะดวก ซึ่งเป็นการจำลองรูปแบบการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง 

การเลี้ยวโค้งมุมกว้างด้วยความเร็ว เป็นสิ่งที่รถทุกคันนั้นต้องแสดงประสิทธิภาพออกมาให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มรถสปอร์ตและรถทัวริ่งที่นอกจากน้ำหนักรถแล้วการคำนวณค่า CG นั่นก็คือสิ่งที่สำคัญ เพราะจะช่วยให้ผู้ขับขี่นั้นควบคุมได้ได้ง่ายแม้ว่าจะใช้ความเร็วอยู่ในโค้งก็ตาม

สถานีเบรก ความปลอดภัยมาตรฐานโดยเฉพาะระบบเบรกนั้นเป็นสิ่งเดียวที่จะทำหน้าที่ชะลอความเร็วและหยุดรถ โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน รถมอเตอร์ไซค์ที่มีระบบเบรกประสิทธิภาพสูงจะสามารถหยุดรถได้ในระยะทางที่สั้นที่สุดโดยที่ตัวรถไม่เสียการควบคุม

การขับขี่ผ่านลูกระนาด ระบบช่วงล่างกันสะเทือนนั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กันเมื่อต้องขับขี่ไปบนเส้นทางที่มีความแตกต่างทางถนน ระบบกันสะเทือนจะช่วยให้การควบคุมรถนั้นอยู่ในเส้นทางที่กำหนด ไม่มีอาการหลุดลอย หรือดีดตัวผู้ขับขี่

การเลี้ยวโค้งต่อเนื่องด้วยความเร็ว โค้งรูปตัว S คือสิ่งสำคัญที่ตัวรถนั้นจะต้องสามารถพลิกกลับไปมาได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีอาการฝืนโค้ง รถที่ผ่านการออกแบบและคำนวณมาอย่างดีจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถคอนโทรลตัวรถพลิกเลี้ยวไปมาได้ราวกับนกที่บินบนท้องฟ้า ซึ่งประสิทธิภาพของตัวรถที่มาจากระบบช่วงล่าง องศาคอรถ ค่า CG มวลรวม ตำแหน่งท่านั่งผู้ขับขี่ หากมีการวางรูปแบบออกมาได้อย่างลงตัวก็จะทำให้ควบคุมรถผ่านโค้ง S ไปได้อย่างง่ายดายไม่กินกำลังแขน

ต้องบอกเลยว่าการทดสอบครั้งนี้รถทั้ง 90 คันนั้น แต่ละคันก็มีจุดเด่น เทคโนโลยี  และประสิทธิภาพ ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้มีความปลอดภัยได้มากที่สุด และมีความคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย ไปลุ้นการประกาศผลรางวัลได้ในงานมอเตอร์โชว์ 2024 นี้ที่อิมแพค เมืองทองธานี

#ThailandBikeOfTheYear2024 #Grandprixgroup #GrandPrixXpectrum #bangkokinternationalmotorshow