สำหรับรถแต่งคันที่อวดโฉมอยู่หน้านี้ ก็เป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นความแรงความเร้าใจของ มีโอ 125 ที่มาพร้อมกับนิยาม “Automatic Moto Sport” ซึ่งผ่านการตกแต่งมาเพื่อคนที่ชื่นชอบรถแต่งสไตล์ตัวแข่งโดยเฉพาะเลยทีเดียว โดยเริ่มความเร้าใจกันด้วยสีสันและลวดลายที่สาดสีพื้นเป็นสีขาวตลอดคัน ก่อนจะใส่ลายกราฟิคสไตล์เรชซิ่งของค่ายยามาฮ่าสีแดงตัดดำเข้าไปพร้อมทั้งจัดสติ๊กสินค้าต่างๆ มาติดไว้อีกเล็กน้อยเหมือนรถแข่ง เพียงแค่นี้ก็สะดุดตาไม่ใช่เล่นแล้ว
แต่... “ของเล่น”...ที่ประจำการอยู่กับ “Automatic Moto Sport” นั้น แต่ละชิ้นรับรองได้ซี๊ด!! อย่างแน่นอน เริ่มจากการเปลี่ยนมือเบรกทั้งสองข้างเป็นแบบอลูมิเนียมสีทองที่สามารถปรับระยะห่างได้ตามต้องการ ประกับคันเร่งอลูมิเนียมสีเดียวกับมือเบรก ปลอกแฮนด์ domino เพื่อความกระชับมือ โช้คอัพหน้าแต่งสุดเท่ จานดิสก์เบรกหน้าแบบลายดอกไม้จับคู่กับคาลิเปอร์แบบ 4 ลูกสูบสีม่วงจาก PANOM พร้อมสายน้ำมันไฮดรอลิคจาก GOODRIDGE ล้อแม็กสี 6 ก้าน รัดไว้ด้วยยางลายปสอร์ตไซส์ 70/90-14
ขยับมาดูกันต่อที่ด้านหลังบ้าง อย่างแรกที่ต้องนำเสนอเลยก็คือ ดิสก์เบรกหลังที่จัดการเสริมแต่งเข้าไปได้อย่างลงตัว โดยจานเบรกเป็นลายดอกไม้ คาลิเปอร์แบบ 2 ลูกสูบถูกยึดไว้ด้วยแป้นอลูมิเนียมพร้อมขายึดที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ ส่วนปั๊มน้ำมันดิสก์เบรกเป็นของ NISSIN ที่ถูกดัดแปลงมาให้ทำงานร่วมกับมือลิงได้อย่างลงตัว ส่วนสายน้ำมันไฮดรอลิคก็ของ GOODRIDGE เช่นกัน โดยในส่วนของระบบดิสก์เบรกหลังนี้ได้มีการสร้างแขนสวิงอาร์มอลูมิเนียมขึ้นมาเพื่อเป็นที่ยึดให้กับชุดเบรกนี้ด้วยนะครับ
โช้คอัพหลังแบบโช้คแก๊สก็เปลี่ยนจากที่ยึดด้านข้างก็ถูกย้ายเข้าไปซ่อนไว้กลางตัวรถแบบรถสปอร์ต โดยกระปุกซับแทงค์ยังคงอยู่ด้านนอกเพื่องความสะดวกในการใช้งาน เช่นเดียวกับคาร์บูเรเตอร์ที่เปลี่ยนขนาดให้โตขึ้นก็ถูกย้ายออกมาจากจุดเดิมเพื่อให้สามารถใส่ปากแตรได้และเพื่อความสะดวกในการเซ็ตอัพ หม้อน้ำก็ย้ายจากตำแหน่งเดิมไปอยู่ตรงบริเวณที่วางเท้าเพื่อหลบไอร้อนจากเครื่องยนต์ ฝาครอบสายพานก็ถูกตัดแต่งโชว์การทำงานของพูเล่ย์ให้เห็นแบบจะจะ ท่อไอเสียก็ตีขึ้นมาใหม่ทั้งใบเป็นแบบปลายท่อสั้นออกเลยใต้ท้องรถมานิดเดียว วงล้อก็ยังคงเป็นแม็กสีดำ 6 ก้านแต่หน้ากระทะจะกว้างขึ้นเพื่อให้สามารถใส่กับยางไซส์ 120/70-14 ลายสปอร์ตได้...
ส่วนที่เหลือก็จะเป็นการเก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ ยามาฮ่า มีโอ 125 “Automatic Moto Sport” คันนี้เป็นตัวแต่งตัวแข่งที่สมบูรณ์แบบมายิ่งขึ้นนั่นเอง...